Tilda Swinton สวมบทบาทเป็นทั้งแม่และลูก เรื่องราวของหญิงวัยกลางคนที่พาแม่มาพักในโรงแรม ซึ่งดัดแปลงมาจากคฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูล เพื่อฉลองวันเกิดของแม่ และช่วยให้แม่หวนคิดถึงความทรงจำอันสวยงามในอดีต
The Eternal Daughter
Joanna Hogg
(2022)
Julie (Tilda Swinton) พา Rosalind แม่ของเธอมาพักที่โรงแรม Moel Famau ซึ่งดัดแปลงมาจากคฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูล เพื่อฉลองวันเกิดของแม่ รำลึกความหลังสมัยที่แม่ยังเด็กและเคยอาศัยอยู่ที่นี่
หลังจากที่พ่อของเธอเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน Julie ก็มีความปรารถนาที่จะสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับแม่เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ
เธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แม่มีความสุข เธอคิดว่าการพาแม่กลับมาบ้านที่แม่เคยอยู่ จะช่วยให้แม่หวนคิดถึงความทรงจำอันสวยงามในอดีต แต่ทว่าคฤหาสน์หลังนี้ยังทำให้แม่ของเธอนึกถึงความทรงจำที่เลวร้ายเจ็บปวดอีกด้วย
ผลงานภาพยนตร์ของ Joanna Hogg ผู้กำกับชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นการร่วมงานครั้งที่ 3 ของตัวผู้กำกับและ Tilda Swinton หลังจาก THE SOUVENIR และ THE SOUVENIR Part II โดยในเรื่องนี้ Tilda Swinton รับบทนักแสดงนำ
The Eternal Daughter เป็นเหมือนส่วนขยายของ THE SOUVENIR ซึ่งเป็นภาพยนตร์กึ่งชีวประวัติของผู้กำกับ โดยที่ตัวละครหลักยังคงเป็น Julie และ Rosalind เช่นเดียวกัน แต่ความพิเศษอยู่ที่ตัวละครทั้งสองคนในเรื่องนี้ แสดงโดย Tilda Swinton เพียงคนเดียวเท่านั้น
ชอบการวางเฟรมที่ไม่ใช้เทคนิคตัดต่อเพื่อให้ตัวละครทั้งสองที่กำลังสนทนาเข้ามาอยู่ในภาพเดียวกัน แต่ใช้การตัดต่อสลับภาพกลับไปมา ให้ความรู้สึกเหมือนตัวละครกำลังพูดกับผู้ชม การแสดงของ Tilda Swinton ยังคงยอดเยี่ยมเช่นเคย ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังดูการสนทนาระหว่างคนสองคนจริงๆ ทั้งที่เป็นนักแสดงคนเดียวกัน
ชอบบรรยากาศความรู้สึกลึกลับ พิศวง เหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างซ่อนตัวอยู่ในโรงแรมแห่งนี้ ทั้งเสียงพื้นลั่นเอี๊ยดอ๊าด เสียงหน้าต่างกระทบกัน เสียงลมพัด แต่บางฉากก็ดูสับสนว่ามันคือเสียงที่ตัวละครในเรื่องได้ยิน หรือเป็นแค่เสียงประกอบที่ใส่เข้ามาเพื่อสร้างบรรยากาศกันแน่
เข้าใจว่าผู้กำกับต้องการถ่ายทอดความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างแปลก ระหว่างลูกสาวที่ต้องการทำให้แม่มีความสุข กับแม่ที่พยายามจะมีความสุขในสิ่งที่ลูกสาวมอบให้ แม้ว่าเธออาจจำเป็นต้องแสร้งทำเป็นดีใจในบางครั้ง แต่น่าเสียดายที่เรื่องนี้ไม่สามารถสร้างความประทับใจระดับเดียวกับ THE SOUVENIR
ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความคาดหวังว่ามันจะมีอะไรหักมุมหรือเหนือความคาดหมาย มากกว่าการเดินเรื่องที่ค่อนข้างเนิบนาบกับหลายฉากที่รู้สึกซ้ำซ้อน จนเกิดความรู้สึกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ยาวยืดเกินไป ทั้งที่มันมีความยาวแค่ 90 นาที
The Eternal Daughter ฉายรอบปฐมทัศน์ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Venice วันที่ 6 กันยายน 2022 และเข้าฉายในสหรัฐอเมริกา วันที่ 2 ธันวาคม