Latest

RESPECT

3000 1688 PRADT
4-MINUTE READ

RESPECT

Liesl Tommy
(2021)

★★★☆☆
 

โปรเจคภาพยนตร์กึ่งมิวสิคัลชีวประวัติ Aretha Franklin ของบริษัท MGM ที่ใช้เวลาพัฒนามาไม่ต่ำกว่า 8 ปี โดย Aretha เป็นหนึ่งในผู้ร่วมพัฒนาภาพยนตร์จวบจนปี 2018 ที่เธอเสียชีวิตลง ซึ่ง Aretha เป็นคนเลือก Jennifer Hudson เพื่อมาแสดงเป็นตัวเธอในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง

RESPECT

เรื่องราวในภาพยนตร์เริ่มต้นขึ้นในปี 1952 คืนงานเลี้ยงที่บ้านของ C. L. Franklin (Forest Whitaker) เด็กสาววัย 10 ขวบถูกปลุกขึ้นมาเพราะทุกคนอยากฟังเสียงของเธอ Aretha สร้างความประทับใจให้กับทุกคน รวมถึง Art Tatum (Vance Taylor), Ella Fitzgerald (Thelma R. Mitchell), Duke Ellington, Dinah Washington (Mary J. Blige)

RESPECT

แต่ในงานเลี้ยงคืนหนึ่ง มีแขกคนหนึ่งเขามาหา Aretha ที่ห้องนอนของเธอ ภาพตัดไปพร้อมกับประตูห้องนอนที่ถูกปิด ทำให้ผู้ชมคาดเดาได้ว่าเธออาจจะถูกข่มขืน และหลังจากนั้นไม่นาน Barbara (Audra McDonald) แม่ของเธอซึ่งแยกทางกับพ่อ ก็เสียชีวิตลงอย่างปุบปับด้วยโรคหัวใจก่อนที่จะถึงงานวันเกิดของ Areatha เป็นสาเหตุให้เธอได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง จนไม่พูดไม่จาไม่ร้องเพลงเป็นเวลาหลายอาทิตย์ พ่อของเธอจึงบังคับให้เธอเริ่มไปร้องเพลงในโบสถ์ของเขา (Aretha ตั้งครรภ์ในปี 1954 ขณะอายุ 12 ปี และให้กำเนิดบุตรชายที่เธอตั้งชื่อว่า Clarence ตามชื่อพ่อของเธอ หลังจากนั้นในปี 1957เธอก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนที่สองกับ Edward Jordan เธอตั้งชื่อว่า Edward Derone Franklin — ในพินัยกรรมของ Aretha ที่ค้นพบในปี 2019 เปิดเผยว่าพ่อของลูกคนแรกก็คือ Edward Jordan เช่นกัน)

RESPECT

ปี 1960 พ่อของเธอจัดการให้ Aretha ได้เซ็นสัญญากับ John Hammond (Tate Donovan) แห่ง Columbia Records ในนิวยอร์กขณะที่เธออายุ 18 ปี แต่อาชีพนักร้องก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จอย่างที่เธอฝันเอาไว้ ภายในระยะเวลา 3 ปีเธอออกอัลบัม Aretha: With The Ray Bryant Combo (1961), The Electrifying Aretha Franklin (1962), The Tender, the Moving, the Swinging Aretha Franklin (1962), Laughing on the Outside (1963) แต่ก็ยังไม่มีเพลงฮิตระดับที่ทุกคนรู้จักกันอยางแพร่หลาย

RESPECT

Aretha แต่งงานกับ Ted White (Marlon Wayans) ในปี 1961 หลังจากที่รู้จักกันเพียง 6 เดือน แม้ว่าครอบครัวของเธอจะไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะพ่อของเธอที่เชื่อว่า Ted ซึ่งอายุ 30 ปีในเวลานั้นเป็นคนไม่ดี แต่ Aretha รัก Ted และเชื่อว่าประสบการณ์การเป็นผู้ดูแลศิลปินของเขา จะช่วยให้เธอโด่งดังได้ Ted จึงเป็นทั้งสามีและผู้จัดการส่วนตัวของเธอ

RESPECT

ค่าย Columbia ตัดสินใจเลิกสัญญากับ Aretha ในปี 1967 หลังจากที่ทำอัลบัมให้ถึง 9 อัลบัม พวกเขาก็ไม่สามารถพัฒนาให้เธอเป็นศิลปินที่โด่งดัง — Ted จึงพาเธอไปเซ็นสัญญากับ Jerry Wexler (Marc Maron) แห่ง Atlantic Records ซึ่งจับคู่เธอกับนักดนตรีที่เก่งกาจใน Muscle Shoals, Alabama และได้บันทึกเสียงเพลง I Never Loved A Man (The Way I Love You) ที่ต่อมากลายเป็นเพลงฮิตเพลงแรกของเธอ วางจำหน่ายวันที่ 10 มีนาคม 1967

RESPECT

แต่ก่อนที่การบันทึกเสียงจะสมบูรณ์ Ted ก็มีเรื่องต่อยตีกับผู้จัดการสตูดิโออัดเสียง และยังทะเลาะลงไม้ลงมือกับ Aretha ทำให้เธอต้องหอบลูกชายหนีกลับมาที่บ้านพ่อของเธอในดีทรอยต์ ระหว่างนั้นเธอก็พบว่าค่าย Atlantic Records ได้ตัดซิงเกิลเพลงของเธอเปิดทางสถานีวิทยุ เธอจึงติดต่อ Jerry ว่าเธอต้องการบันทึกเสียงกับวง Muscle Shoals อีกครั้ง

RESPECT

คืนหนึ่ง Aretha และ Carolyn (Hailey Kilgore) เกิดแรงบันดาลใจที่จะเรียบเรียงเพลง Respect ของ Otis Redding เป็นเวอร์ชันใหม่ เธอจึงเข้าสตูดิโอบันทึกเสียง และวางจำหน่ายครั้งแรกวันที่ 29 เมษายน 1967 ซึ่งสามารถไต่ขึ้นอันดับ 1 ของชาร์ต Billboard Hot 100 วันที่ 3 มิถุนายน 1967 เพลงนี้กลายเป็นเพลงฮิตที่สุดของเธอ เปลี่ยนแปลงความหมายจากเพลงต้นฉบับชายร้องขอความจงรักภักดีจากภรรยา มาเป็นหญิงที่เรียกร้องสิทธิความเสมอภาคที่ผู้ชายควรจะมีให้ผู้หญิง

RESPECT

ชื่อเสียงของ Aretha โด่งดังไปทั่วโลก ทำให้เธอต้องเดินสายทัวร์ไปแสดงที่ประเทศต่างๆ แต่หลังจากนิตยสาร Time ลงข่าวเรื่องที่เธอถูก Ted ทำร้าย ทำให้ Ted โกรธและพยายามจะลงไม้ลงมืออีกครั้ง เธอจึงตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ลง Aretha ยังคงสร้างสรรค์บทเพลง เดินสายแสดง แรงกดดันทำให้เธอหันไปหายาเสพติดและเหล้าจนเกินขีดที่ร่างกายของเธอจะรับไหว ซึ่งภายหลังเธอเชื่อว่าเธอต้องกลับมาหา Gospel ที่เป็นต้นกำเนิดของจิตวิญญาณของเธอ เธอจึงคิดที่จะทำอัลบัมเพลง Gospel แม้ว่า Jerry จะไม่เห็นด้วยเพราะกลุ่มคนที่จะซื้ออัลบัมเพลงแนวนี้มีน้อยมากเมื่อเทียบกับแนวตลาดอื่นๆ แต่ท้ายที่สุดก็ต้องจำใจยอมตกลง โดยมีข้อแม้ว่าเธอจะต้องยอมให้ทีมงานเข้าไปถ่ายทำการบันทึกเสียงอัลบัม การแสดงสดที่ New Temple Missionary Baptist Church ในลอสแอนเจลิส — อัลบัม Amazing Grace วางจำหน่ายวันที่ 1 มิถุนายน 1972 ประสบความสำเร็จอย่างสูง ด้วยยอดขายมากกว่า 2 ล้านก็อปปี้ กลายเป็นอัลบัมที่ขายดีที่สุดของ Aretha Franklin

RESPECT

ตัวภาพยนตร์ปิดฉากลงด้วยภาพฟุตเทจของ Aretha Franklin ตัวจริง แสดงการเล่นเปียโนและร้องเพลง (You Make Me Feel Like) A Natural Woman ในงาน Annual Kennedy Center Honors ของ Carole King ศิลปินนักร้องนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน วันที่ 6 ธันวาคม 2015 — เพลงนี้เป็นซิงเกิลของ Aretha Franklin ภายใต้บริษัท Atlantic แต่งโดย Carole King และ Gerry Goffin วางจำหน่ายครั้งแรกในเดือนกันยายน 1967 และสามารถไต่ขึ้นอันดับ 8 ของชาร์ต Billboard Hot 100 วันที่ 4 พฤศจิกายน 1967 นับเป็นหนึ่งในเพลงของ Aretha ที่คนรู้จักมากที่สุด

Jennifer Hudson ดึงดูดผู้ชมด้วยการแสดงที่น่าประทับใจและเสียงร้องอันทรงพลัง ที่ไม่ได้พยายามเลียนแบบเสียงของ Aretha (ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครเลียนแบบได้) แต่กลับไม่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ตลอดเวลาเกือบ 140 นาที ซึ่งให้ความรู้สึกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ยาวเกินไปสำหรับบทที่ผู้กำกับและเคนเขียนบทตัดทอนเพื่อลดความซับซ้อนและความมืดมนของชีวิตจริง โดยเฉพาะช่วงสุดท้ายของเรื่องที่ Aretha กลายเป็นคนคลุ้มคลั่งจากพิษสุราและความกดดัน แต่เธอสามารถกลับเป็นตัวใหม่ได้ทันทีหลังจากเห็นภาพนิมิตของแม่!

ตัวภาพยนตร์ไม่ได้แสดงให้เราได้เห็นสภาวะของตัวเอกที่ต้องเผชิญตั้งแต่วัยเด็ก การสูญเสียแม่ การถูกข่มขืน การที่เธอต้องตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุ 12 ขวบ ซึ่งกลายมาเป็นประสบการณ์ชีวิตทำให้ Aretha เติบโตมาเป็น Aretha — ชีวิตที่ถูกควบคุมโดยพ่อที่เธอพยายามสลัดทิ้ง แต่กลับต้องมาเจอสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าในตัวสามีคนแรก ถ่ายทอดออกมาได้ธรรมดามาก จนเราทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่ามันเป็นเรื่องที่ศิลปินนักร้องทุกคนต้องเจอ แล้วมันกลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตได้อย่างไร ราวกับผู้สร้างต้องการนำเสนอบทเพลงฮิตที่ทำให้เธอถูกเรียกว่า Queen of Soul อย่างฉาบฉวย มากกว่าชีวิตที่แท้จริงของเธอ

RESPECT

RESPECT ฉายรอบปฐมทัศน์ในลอสแอนเจลิส วันที่ 8 สิงหาคม 2021 และเปิดฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วสหรัฐอเมริกาวันที่ 13 สิงหาคม 2021 ก่อนจะปล่อยให้เช่าบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2021

Apple TV
Amazon Prime Video
Google Play
Vudu

RESPECT


THIS ARTICLE WAS FIRST PUBLISHED ON
UPDATED
2024.08.27
REPORT / REQUEST
REPORT / REQUEST