MALEFICENT
MISTRESS OF EVIL
Joachim Rønning
(2019)
นับเป็นเวลา 5 ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก Aurora (Elle Fanning) ก็ได้กลายเป็นราชินิแห่ง Moors โดยมี Maleficent (Angelina Jolie) เป็นผู้ดูแล
แต่ทว่าอาณาจักร Ulstead ของเจ้าชาย Phillip (ภาคนี้เปลี่ยนนักแสดงจาก Brenton Thwaites มาเป็น Harris Dickinson เนื่องจาก Brenton ไปเล่นทีวีซีรีส์ของตัวเองแล้ว) ก็ยังคงเห็น Maleficent เป็นแม่มดชั่วร้ายอยู่ดี จากข่าวลือที่ถูกส่งต่อกันไปทั่ว
เมื่อ Maleficent ได้รับการแจ้งข่าวจาก Diaval (Sam Riley) ว่า Aurora ตอบตกลงที่จะแต่งงานกับเจ้าชาย Phillip เธอก็ไม่พอใจอย่างมาก จากการที่เธอไม่เชื่อใจมนุษย์คนไหนทั้งนั้น แม้ว่า Aurora จะพยายามบอกว่าการแต่งงานจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง Moors และ Ulstead
Maleficent เดินทางไปยังปราสาท Ulstead ตามคำเชิญของราชา John (Robert Lindsay) และราชีนี Ingrith (Michelle Pfeiffer) พร้อมกับ Aurora แต่ระหว่างการทานอาหาร ราชา John ก็ล้มลงลงสิ้นสติ และราชีนี Ingrith ก็กล่าวหาว่า Maleficent ใช้เวทมนตร์สาปแช่ง
ท่ามกลางความโกลาหล Maleficent ก็บินหนีออกทางหน้าต่าง และถูกคนรับใช้ของราชินีลอบยิงจนบาดเจ็บตกลงในน้ำ — Maleficent ได้รับการช่วยเหลือจาก Conall (Chiwetel Ejiofor) โดยเขาพาเธอมาที่ถ้ำลับแหล่งที่ซ่อนตัวของเผ่าพันธุ์ dark fey กลุ่มสุดท้ายที่เหลืออยู่บนโลก หลังจากที่ถูกมนุษย์ตามล่า
ระหว่างที่ Maleficent หายตัวไป ราชีนี Ingrith ก็ประกาศเชิญเหล่าประชากรของ Moors ให้มาร่วมงานฉลองพิธีแต่งงานระหว่าง Phillip และ Aurora แต่แท้จริงแล้ว ราชีนี Ingrith ได้วางแผนที่จะครอบครอง Moors ทั้งหมด
ส่วนที่ชอบคือนักแสดงเล่นได้ดีกันทุกคน และการผูกเรื่องที่มีโลกของ dark fey ก็ทำออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ฉากต่างๆ รวมถึงฉากสงครามก็ทำออกมาได้อย่างอลังการงานสร้าง — แต่การเดินเรื่องยังมีจุดบกพร่องหลายจุด อาทิ การเสียเวลามากมายกับการเถียงกันระหว่าง Borra (Ed Skrein) และ Conall ว่าจะเปิดสงครามกับมนุษย์หรือจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ หรือ Aurora สามารถเปิดห้องลับได้อย่างง่ายดาย และยังมีนิมิตเห็นภาพคนร้าย เป็นต้น
MALEFICENT: MISTRESS OF EVIL เข้าฉายในสหรัฐอเมริกา วันที่ 18 ตุลาคม 2019 ส่วนในประเทศไทย “มาเลฟิเซนต์ นางพญาปีศาจ” เข้าฉายตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม