เรื่องราวของครอบครัวซึ่งเดินทางไปพักผ่อนที่กระท่อมโดดเดี่ยวกลางป่า พวกเขาถูกกลุ่มคนแปลกหน้าบังคับให้ต้องเลือกสละชีวิตของสมาชิกหนึ่งคน เพื่อหยุดยั้งการล่มสลายของโลกนี้
KNOCK at the CABIN
M. Night Shyamalan
(2023)
M. Night Shyamalan ผู้กำกับชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดีย กลับมาสร้างภาพยนตร์ไซโคทริลเลอร์สยองขวัญแนวโลกล่มสลายอีกครั้ง หลังจาก OLD ภาพยนตร์ไซไฟสยองขวัญที่กวาดรายได้ทั่วโลกไปมากกว่า 90 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 18 ล้านเหรียญ ในปี 2021
เรื่องราวของสองหนุ่มคู่รัก Eric (Jonathan Groff) และ Andrew (Ben Aldridge) พา Wen (Kristen Cui) ลูกสาวบุญธรรมของพวกเขา มาพักผ่อนที่กระท่อมโดดเดี่ยว ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าไร้ผู้คน
กลุ่มคนแปลกหน้า 4 คน ประกอบด้วย Redmond (Rupert Grint), Sabrina (Nikki Amuka-Bird), Adriane (Abby Quinn) และ Leonard (Dave Bautista) ปรากฏตัวขึ้นที่หน้ากระท่อมโดยไม่ได้รับเชิญ พวกเขาอ้างว่าพวกเขาไม่เคยพบกันมาก่อนจนกระทั่งวันนี้
หลังจากกลุ่มคนแปลกหน้าใช้กำลังบุกเข้ามาในกระท่อม จับตัว Eric และ Andrew มัดไว้กับเก้าอี้ พวกเขาก็เริ่มแนะนำตัวเองว่าเป็นใครมาจากไหน สิ่งที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจมารวมตัวกันในวันนี้ก็คือ ทุกคนในกลุ่มเห็นภาพนิมิตของวันสิ้นโลก วันที่ทุกชีวิตบนโลกจะต้องดับสูญจากภัยพิบัติตามคำพิพากษาของพระเจ้า ซึ่งพวกเขาเชื่อว่ากำลังจะมาถึงในไม่ช้า
ชะตาชีวิตของทุกคนบนโลกนี้ ขึ้นอยู่กับครอบครัวของ Eric และ Andrew ที่ต้องตัดสินใจเลือกสังหารใครคนหนึ่งในครอบครัว โดยผู้เสียสละไม่สามารถฆ่าตัวตายเองได้ เขาจะต้องถูกสังหารโดยสมาชิกในครอบครัวเท่านั้น แน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อเรื่องพวกนี้ โดยเฉพาะ Andrew ที่คิดว่ากลุ่มคนแปลกหน้าเป็นสมาชิกของลัทธิคลั่งศาสนา
ถ้าครอบครัวของ Eric ไม่ตัดสินใจเลือกใคร มนุษย์ทั้งโลกก็จะต้องตาย เหลือเพียงครอบครัวของ Eric แค่ 3 คนบนโลกที่ว่างเปล่าเท่านั้น และทุกครั้งที่ Eric กับ Andrew ตอบปฏิเสธที่จะไม่เลือก สมาชิกคนหนึ่งของกลุ่มคนแปลกหน้าก็จะถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าทุกคน หลังจากนั้นก็จะเกิดภัยพิบัติที่น่ากลัว ซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นไปเรื่อยๆ
ภาพยนตร์ดัดแปลงจาก The CABIN at the END of the WORLD หนังสือนิยายแนวสยองขวัญของ Paul Tremblay นักเขียนชาวอเมริกัน ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2018 และคว้ารางวัลชนะเลิศของ Bram Stoker Award มาได้ ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับนิยายสยองขวัญยอดเยี่ยม จัดโดย Horror Writers Association มาตั้งแต่ปี 1987
ชอบการเล่นกับความเชื่อของทั้งผู้ชมรวมถึงตัวละครหลักในเรื่อง ว่ามนุษย์กำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายระดับ Extinction Level Event ที่จะทำให้มนุษยชาติสูญพันธุ์ หรือมันเป็นเพียงทฤษฎีสมคบคิดที่กลุ่มคนแปลกหน้าหลงเชื่อหัวปักหัวปำกันแน่ เพราะเหตุการณ์ในหลายฉากทำให้ผู้ชมเกิดความแคลงใจ ว่าบางทีมันอาจเป็นอุปาทานหมู่ของกลุ่มคนร้าย หรือเป็นแผนการที่ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้าอย่างแยบยล
ชอบการแสดงของ Dave Bautista ในบทบาท Leonard คุณครูผู้นำของกลุ่ม เขาสามารถสร้างบรรยากาศอึมครึมได้ตลอดเวลา ทั้งที่ใช้น้ำเสียงที่ฟังดูสุภาพเรียร้อย แต่ยังทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่อันตรายมาก
น่าเสียดายที่นักแสดงสบทบคนอื่นไม่ค่อยน่าจดจำสักเท่าไหร่ (Redmond โผล่มาแป๊บเดียวก็ตายละ) ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้กำกับเลือกให้ความสำคัญกับความหลังของตัวละครหลัก โดยใช้ภาพย้อนอดีตที่ตัดสลับมาหลายรอบ ทำให้ความต่อเนื่องของบรรยากาศในเรื่องต้องสะดุดไปด้วย แทนที่จะใช้เวลาแจกจ่ายบท สร้างคาแรกเตอร์ให้ตัวละครอื่นมากกว่านี้
สิ่งที่ไม่ชอบคือฉากจบที่ดูธรรมดาไปหน่อย สำหรับผู้กำกับอย่าง M. Night Shyamalan ที่เคยสร้างชื่อจากจุดหักมุมที่เหนือความคาดหมายมาแล้วหลายเรื่อง แต่เรื่องนี้คือเฉลยตอนจบแบบตรงไปตรงมา ไม่จำเป็นต้องไปตีความ หรือเปิดปลายไว้แบบให้ผู้ชมต้องขบคิดว่า ทุกสิ่งที่เราเห็นคือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงหรือเปล่า ซึ่งจุดนี้ในหนังสือทำไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม สร้างความสะเทือนใจเหนือกว่าฉบับภาพยนตร์มาก
KNOCK at the CABIN ฉายรอบปฐมทัศน์ในนครนิวยอร์ก วันที่ 30 มกราคม 2023 ก่อนจะเข้าฉายในสหรัฐอเมริกา วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ส่วนในประเทศไทย ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ด้วยชื่อ “เสียงเคาะที่กระท่อม” ตัวภาพยนตร์ทำรายได้ทั่วโลกไปมากกว่า 48 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างวันที่ 3 – 21 กุมภาพันธ์ จากทุนสร้าง 20 ล้านเหรียญ