I AM LEGEND
Francis Lawrence
(2007)
ภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากนวนิยาย ชื่อเดียวกันของ Richard Matheson นักเขียนชาวอเมริกัน ตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1954 และถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์แล้วสองครั้ง คือ The Last Man on Earth (1964) และ The Omega Man (1971) ว่าด้วยเรื่องราวของมนุษย์คนสุดท้ายบนโลกที่รอดชีวิตจากโรคระบาดครั้งใหญ่ ซึ่งเปลี่ยนผู้คนให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายแวมไพร์
เปิดเรื่องมาเป็นข่าวการใช้ไวรัสรักษาโรคได้ แล้วก็ตัดมาสามปีผ่านไป โดยไม่มีการบอกเล่าเรื่องราว ว่าทำไมคนถึงหายไปหมดทั้งเมือง ให้คนดูคิดเอาเอง ภาพยนตร์แนวไวรัสระบาดมีออกมาเยอะแล้ว คนดูก็มองภาพออกได้สบาย พอเห็นภาพตัวเอกขับรถอยู่ในเมืองร้างอยู่คนเดียว ภาพจากภาพยนตร์โปรดฝีมือผู้กำกับอังกฤษคนโปรด Danny Boyle เรื่อง 28 DAYS LATER ก็ผุดขึ้นมาทันที (เนื้อเรื่องมันก็ติดเชื้อแนวคล้ายกันอีก)
เนื้อเรื่องมีส่วนน่าสนใจ ต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่น ตรงที่ตัวเอกเก่งอยู่แล้ว เป็นทหารและเป็นนักวิจัยด้วย ไม่ใช่เอาแต่วิ่งหนีหรือวิ่งไล่ฆ่าอย่างบ้าคลั่ง แต่นำเสนออีกด้านของอารมณ์ ความเปล่าเปลี่ยว ที่ต้องอยู่ตัวคนเดียว และคิดค้นยารักษาไปด้วย เนื่องจากเป็นคนเดียวโดนเชื้อแล้วไม่เป็นไร
แม้จะใช้ดาราแม่เหล็กอย่าง Will Smith มาก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก เพราะผู้กำกับแกเดินเรื่องได้เหนื่อยเหลือเกิน ดูไปก็ได้แต่คิดว่าเมื่อไหร่มันจะจบสักที คือบทมันมาเป็นแบบนั้น ใครมาแสดงก็คงไม่สามารถทำให้มันดีขึ้นมาได้
มีแค่ฉากเมืองร้างที่ดูแล้วประทับใจ มีร้านแมคโดนัลด์เน่าๆ กับป้ายโฆษณาละครเพลง WICKED ด้วย ที่เหลือก็งั้นๆ คนติดเชื้อนี้ยิ่งสลด เข้าใจว่าต้องการนำเสนอภาพซีจีอันล้ำหน้า แต่ทำไมพี่ออกแบบได้เหมือน อิมโมเทปตอนเพิ่งออกจากโลงใน THE MUMMY ภาคแรก ที่สร้างมาตั้งแต่ปี 1999 ล่ะฮะ ไม่ทราบว่าได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องนั้นหรือเปล่า
กลุ่มคนติดเชื้อนี่มีตัวหัวหน้าด้วย (โอ๊ย คิดได้ไงเนี่ย) เป็นตัวที่ดูฉลาดที่สุด เหมือนว่ายังมีความคิด ขณะที่คนติดเชื้อคนอื่นไร้สติไปหมดแล้ว ตัวหัวหน้ามีความสามารถพิเศษคือ ร้องโฮก!!! (ด้วยสีหน้ามัมมี่!) แล้วลิ่วล้อทั้งหลาย ก็จะกระโดดเด้งตัวปีนป่าย ได้อัศจรรย์ราวกับเป็นนินจา (ถ้าร้องกี๊กี๊ได้ด้วยนี่ใช่เลย) สรุปว่านอนห่มผ้าดูดีวีดี THE MUMMY กับ 28 DAYS LATER อีกรอบ ยังดีกว่า
ผลงานจาก Francis Lawrence ที่ผันตัวจากการกำกับมิวสิควีดีโอเท่เท่อย่าง I’m A Slave 4 U มากำกับภาพยนตร์ที่น่าง่วงอย่าง CONSTANTINE (อันนี้ไม่รู้มาก่อนเลยนะครับ เลยไม่ได้มีอคติใดๆ ตอนไปดู พอดูจบแล้วต้องรีบมาคุ้ยหาว่า ผู้กำกับคนนี้ เคยทำหนังเรื่องอะไรมาก่อนหรือเปล่า) ส่วนคนเขียนบทก็มี Mark Protosevich (POSEIDON) กับ Akiva Goldsman (THE DA VINCI CODE) รวมดาวโดยแท้