Grâce à Dieu
By the Grace of God
2019 | François Ozon
Tu crois toujours en Dieu?
เรื่องราวเริ่มต้นในปี 2014 โดย Alexandre Guérin (Melvil Poupaud) ชายอายุ 40 ปี ทำงานธนาคารใน Lyon เขาอาศัยอยู่กับ Marie (Aurélia Petit) ภรรยาและลูกๆ Gauthier (Max Libert), Victor (Nicolas Bauwens), Gaspard (Timi-Joy Marbot), Côme (Zuri François), Lila (Zéli Marbot) ที่น่ารัก 5 คน
วันหนึ่งเขาเปิดหนังสือพิมพ์แล้วเห็นข่าวบาทหลวงที่เคยล่วงละเมิดทางเพศกับเขาในสมัยเด็ก ยังคงทำงานร่วมกับเด็กๆ ในโบสถ์ เขาจึงส่งจดหมายเล่าเรื่องที่ถูกละเมิดทางเพศไปถึงโบสถ์ในเมือง เมื่อ Pierre Durieux ได้รับจดหมายก็ส่งต่อไปยัง Philippe Barbarin (François Marthouret) ซึ่งดำรงตำแหน่ง cardinal ของ Lyon ในขณะนั้น
ช่วงแรกของหนัง จะเป็นการโต้ตอบทางจดหมายระหว่าง Alexandre Guérin และ Philippe Barbarin โดยจะมีเสียงอ่านข้อความบางส่วนให้ผู้ชมฟัง — Philippe ส่ง Alexandre ไปพบกับ Régine Maire (Martine Erhel) ซึ่งเป็นผู้รับเรื่องและประสานงานกับบุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับบาทหลวง — หลังจากนั้นเธอก็ติดต่อ Bernard Preynat (Bernard Verley) เพื่อให้เขามาพบกับ Alexandre
การพบกันอีกครั้งทำให้ Alexandre คิดไปต่างๆ นาๆ ว่า Bernard จะปฏิเสธข้อกล่าวหาและอ้างว่าเขาโกหกหรือเปล่า ปรากฏว่า Bernard ยอมรับข้อกล่าวหาและบอกว่าเขาทำไปเพราะอาการป่วยทางจิต นอกจากนี้เขายังยอมรับว่าเขาได้กระทำกับเด็กผู้ชายอีกจำนวนมาก แต่เขาปฏิเสธที่จะประกาศยอมรับอย่างเป็นทางการ
หลังจากการพบกัน Alexandre ก็ยังส่งจดหมายถึง Régine Maire เพื่อถามความคืบหน้า แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่เชาพอใจ และดูเหมือนว่า Philippe Barbarin ก็ไม่ทำอะไร ซึ่งก็เป็นไปตามที่ Bernard Preynat เคยบอกไว้ว่าทางโบถส์รับรู้เรื่องของเขาอยู่แล้ว
เมื่อทางโบถส์ไม่จัดการอะไรทั้งนั้น Alexandre จึงตัดสินใจส่งเอกสารไปที่ Procureur de la République (พนักงานอัยการของฝรั่งเศส) ส่งผลให้มีการตรวจสอบโดยตำรวจ Courteau (Frédéric Pierrot) แต่ด้วยข้อจำกัดของคดีที่เก่ามากจนไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้ – Courteau สืบจากเอกสารเก่าปี 1991 จนสามารถตามไปเจอครอบครัว Debord ซึ่งมีจดหมายสารภาพจาก Bernard Preynat
François Debord (Denis Ménochet) ได้รับติดต่อจากตำรวจ ทำให้เขาทราบว่า Bernard Preynat ยังมีชีวิตอยู่และยังคงทำงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กอยู่ในปัจจุบัน ทำให้เขาตัดสินใจให้การกับตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เขาเจอ เขาเป็นคนใจร้อนและต้องการทำลายภาพลักษณ์ของโบสถ์ที่ปกป้องคนอย่าง Bernard Preynat กดดันให้ Philippe Barbari ออกมาแถลงการณ์ อีกทั้ง François ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อจนกลายเป็นข่าว – เขาเชื่อว่ายังมีเหยื่ออีกหลายคนที่โดนกระทำและยังไม่ออกมาแสดงตัว เขาจึงสร้างเว็บไซต์ในชื่อ La Parole Libérée เพื่อรวบรวมหลักฐานของผู้ที่เคยถูกล่วงละเมิด
ข่าวของ François ทำให้เขาได้รับการติดต่อจาก Emmanuel Thomassin (Swann Arlaud) หนึ่งในเหยื่อของ Bernard Preynat ที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจมากที่สุดในกลุ่ม มันเลวร้ายขนาดที่เขาไม่สามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้เลย ร่างกายของเขาจะเกิดอาการชักอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อเเกิดความเครียดมาก
นักแสดงทุกคนก็เล่นได้ดีมาก โดยเฉพาะ Swann Arlaud — งานกำกับและการเล่าเรื่องของ François Ozon นี่มันดีจริงๆ
ดูเรื่องนี้แล้วก็นึกถึงหนังเรื่อง Spotlight (2015) ที่มีใจความเดียวกัน ซึ่งคิดว่าผู้กำกับก็ได้แรงบันดาลใจจากหนังเรื่องนั้น เพราะมีฉากที่เห็นโปสเตอร์หนัง Spotlight อยู่ด้วย — แต่ Spotlight เดินเรื่องด้วยทีมนักข่าวอาขีพที่มีหนังสือพิมพ์ใหญ่หนุนหลัง ส่วน Grâce à Dieu เดินเรื่องผ่านเหยื่อที่ลุกขึ้นมารวมตัวกันสู้เอง เนื่องจากไม่มีใครช่วยเหลือ
แม้แต่พ่อแม่ของ Alexandre ยังไม่เห็นด้วยที่ลูกชายไปขุดคุ้ยเรื่องในอดีตมาสร้างความเสื่อมเสียให้กับ Philippe Barbarin ซึ่งเป็นที่รักของทุกคน มันเศร้ามาก
ความพิเศษของภาพยนตร์เรื่องนี้คือมันถูกสร้างขึ้นในปี 2018 ซึ่งเป็นช่วงการพิจารณาคดีของ Cardinal Philippe Barbarin ในข้อหาที่เขารู้ความจริงเกี่ยวกับ Bernard Preynat ที่ล่วงละเมิดทางเพศก้บเด็กผู้ชาย มาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว แต่ Bernard Preynat ก็ยังคงทำงานอยู่ในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับเด็กตลอดมา
Philippe Barbarin และนักบวชอีก 6 คน ถูกส่งฟ้องในปี 2017 แต่ศาลเริ่มพิจารณาคดีในเดือนมกราคม 2019 ตัวภาพยนตร์เปิดฉายในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 ก่อนที่ศาลจะตัดสินว่า Philippe Barbarin มีความผิดจริงในวันที่ 7 มีนาคม 2019