เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
seasons change
นิธิวัฒน์ ธราธร
Nithiwat Tharathorn
(2006)
อุตส่าห์ห์ตั้งใจว่าจะรอดูเป็น DVD นะเนี่ย เพราะเข็ดแล้วกับผู้กำกับแฟนฉัน + เพื่อนสนิท (ชอบแต่เรื่องเด็กหอ) แต่ในที่สุดก็โดนลากไปดูจนได้
ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของ “ป้อม” (วิทวัส สิงห์ลำพอง) เด็กหนุ่มที่มีพรสววรค์ด้านการตีกลอง ผู้ซึ่งแอบชอบ “ดาว” (ยุวนาถ อาระยานิมิตสกุล) จนถึงขนาดหลอกพ่อว่า ไปเรียนเตรียมแพทย์ แต่ความจริง แอบไปสมัครเข้าโรงเรียนดนตรี และที่นั่นเขาก็ได้พบ “อ้อม” (ชุติมา ทีปะนาถ) เด็กสาวร่าเริงสดใส กับความสัมพันธ์ใหม่ ที่เริ่มก่อตัวขึ้นมาช้าๆ
เพราะอากาศปลี่ยนแปลงบ่อย เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่ค่อนข้างเน้นตลก มากกว่าเรื่องรัก ซึ่งก็ดูเหมาะสมกับตัวละครในเรื่องดี โดยเฉพาะตัวช่วยอย่าง เฉดและฉัตร (รัชชุ สุระจรัส / เฉลิมพล ตันติ์ทวิสุทธิ์) ที่สามารถเรียกเสียงฮาได้ทุกครั้งที่ปรากฏตัว รวมถึง ปาณิสรา พิมพ์ปรุ กับบทคุณครูคอนดักเตอร์ และ ยาโน่ คาซูกิ นักแสดงละคอนใบ้ ในบทอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ทางด้านเครื่องดนตรีให้จังหวะ ก็เป็นคู่ที่เรียกเสียงฮาได้ไม่แพ้กัน
เรื่องติก็คงมี เพราะเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นหนังระดับยอดเยี่ยม ตัวหนังและบทน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้ การตัดต่อยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก มันมีอารมณ์สะดุดอยู่หลายครั้ง รวมถึงภาพที่ดูสวยงาม แต่มันดูจงใจเกินไปและให้ความรู้สึกยัดเยียดว่า ผู้กำกับอยากได้ภาพแบบนี้ก็เลยถ่ายมาแบบนั้น ทั้งๆ ที่บางทีมันดูผิดธรรมชาติ (เหมือนเรื่องแฟนฉัน ที่พยายามยัดเยียด “เพลง” เข้ามาไม่ยั้ง โดยไม่สนใจช่วงเวลา ใช้ nostalgia ประมาณว่า คนเคยฟังแล้วแน่ๆ ฟังแล้วรู้สึกดี)
ด้านช่วงหนังที่ตัดเป็นฤดูกาลก็ทำได้ไม่เลว เพียงแต่ฤดูหนาว ฤดูสุดท้ายในเรื่อง ยังทำภาพออกมาได้ไม่โดนใจ มันน่าจะเล่นกับภาพได้อีก พวกบรรยากาศ การแต่งตัว ทิวทัศน์ มันยังไม่ให้ความรู้สึกว่าเป็นฤดูหนาวอย่างที่ควรจะเป็น
มาพูดถึงเรื่องที่ชอบดีกว่า ชอบที่สุดในเรื่องนี้ก็เป็นเพลงครับ (เป็นที่น่าแปลกใจว่า ในเว็บของภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเพลงประกอบเลย) ผมชอบการใช้ เพลงคลาสสิค มาประกอบในหนังนะ มันทำให้คน เริ่มสนใจเพลงคลาสสิคมากขึ้น ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดี
เพลงเด่นในเรื่องก็คงเป็นเพลง Weather Dance ของ อ.บุญรัตน์ ศิริรัตนพันธุ์ กับเพลง Le quattro stagioni หรือ The Four Seasons ของ Antonio Vivaldi ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ช่วตามชื่อ La primavera (ฤดูใบไม้ผลิ) / L’Estate (ฤดูร้อน) / L’Autunno (ฤดูใบไม้ร่วง) / L’Inverno (ฤดูหนาว) ~ผมชอบตอนที่อาจารย์อ่านชื่อ La primavera กับ L’Inverno ซึ่งแกอ่านเป็นสำเนียงฝรั่งเศส แทนที่จะอ่านแบบอิตาเลียน ฮาจริงๆ หัวเราะจนปวดท้องเลย
ฉากที่ชอบทึ่สุดคือ ฉากที่ “อ้อม” สีไวโอลินตอนใกล้จบ เสียงไวโอลินแหลมๆ เพี้ยนๆ แต่บาดลึกและปวดร้าวยิ่งนัก ไม่ต้องใช้คำพูดมาบรรยายใดๆ ความรู้สึกทั้งหมดมันอยู่ในโน้ตเพลงหมดแล้ว
สรุปว่าเป็นเรื่องที่ดูแล้วอารมณ์ดี แม้ว่าจะมีบางอย่างดูขัดไปบ้าง แต่หักลบกันแล้วก็เป็นภาพยนตร์ที่ดีครับ (พลังเพลงคลาสสิค มันมีอิทธิพลจริงๆ นะครับ) หวังว่าเรื่องหน้าของผู้กำกับ นิธิวัฒน์ ธราธร จะทำได้ดียิ่งขึ้นไปกว่านี้อีก
น่าดูจริงๆ..บรรยากาศในวิทยาลัยดุริยางคศิลป์คงจะเป็นใจให้หนังออกมาเป็นแนวสบายๆด้วย.. แต่หวังว่าเยาวชนคงจะชั่งใจให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกเรียนสายนี้.. เพราะไทย กับ ต่างประเทศนั้นแตกต่างกันเป็นอย่างยิ่งสำหรับอาชีพนักดนตรี…