The Happiness of Kati
2003 | งามพรรณ เวชชาชีวะ (Ngarmpun Jane Vejjajiva)
เสียงฝนสาดซ่า กระทบหลังคาชวนฟังมากขึ้น เมื่อมีเสียงเปาะแปะ กระทบกะละมัง ที่ใครคงเผลอลืมไว้นอกชายคา แทรกผสมเข้ามา กะทินอนฟังเพลิน แต่จะเริ่มสะดุ้ง หากเสียงรัวกราว พ่ายต่อเสียงครั่นครื้นของฟ้า เสียงสายฟ้าฟาดเหมือนตามมาด้วย เสียงคนกรีด ร้องปานใจสลายทุกครั้ง ไม่รู้ว่าหูของกะทิแว่วไปเอง หรือเสียงนั้นดังมาจากเบื้องลึกของความทรงจำ นาทีนั้น ยายจะเปิดประตูห้องนอนเข้ามา และนอนกอดกะทิไว้ จนหลับไปด้วยกันถึงเช้า กะทิเบียดซุกในอ้อมกอดของยาย ไม่อยากได้ยินเสียงฟ้า เสียงฝน เสียงคน… เสียงผู้หญิงคนนั้น… เนื้อเนียนของยายหอมอ่อน ๆ ยายไม่เล่านิทานปลอบขวัญ หรือร้องเพลงกล่อม แต่ลูบหลังกะทิเบา ๆ สม่ำเสมอชวนเคลิ้มหลับ ครั้งหนึ่งกะทิปรือตาขึ้นดูหน้ายาย เห็นลูกตาวาว ๆ ฟ้าแลบไกล ๆ พอมีแสงสว่างให้กะทิแน่ใจ ว่ายายร้องไห้อยู่ในความมืด
เพิ่งอ่านจบ หนังสือหนาแค่ 118 หน้า
เรื่องราวของความรัก ครอบครัวและความเศร้า ของเด็กผู้หญิงชื่อว่า กะทิ ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านเรือนไทยริมคลอง กับคุณตาและคุณยาย ทุกคนดำเนินชีวิตตามปกติ และไม่มีใครเอ่ยถึง ที่มาที่ไปของตัวกะทิ ไม่มีใครบอกเธอ ว่าพ่อแม่ของเธอเป็นใคร มาจากไหน จนกระทั่งวันหนึ่ง…
ผลงานของ งามพรรณ เวชชาชีวะ เรื่อง “ความสุขของกะทิ” มีการใช้ภาษาที่งดงาม สละสลวย บอกเล่าเรื่องราวที่เนิบนาบ และลึกซึ้ง ดูเผินๆจากหน้าปก เหมือนหนังสือสำหรับเด็กทั่วไป แต่เนื้อหาข้างในนั้น มันเป็นชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ต้องเผชิญกับความจริงที่สะเทือนอารมณ์มาก
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนังสือ อ่านได้ที่ กะทิ (nariza.com)
น่าอ่านดี เห็นหัวข้อแล้วนึกถึงชายแก่พุงพลุ้ยที่กำลังรบราฆ่าฟันอยู่กับโฆษบุรุษหน้าเหลี่ยม