ภาพยนตร์ที่ใช้เทคนิคการเล่าเรื่องคล้ายสารคดี ถ่ายทอดเรื่องราวที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริงของทีมนักสำรวจถ้ำ กับการเดินทางไปตรวจสอบหลุมลึกที่เรียกว่า Abisso del Bifurto ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี

ภาพยนตร์ที่ใช้เทคนิคการเล่าเรื่องคล้ายสารคดี ถ่ายทอดเรื่องราวที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริงในปี 1961 ของทีมนักสำรวจถ้ำ (Speleologist) กับการเดินทางไปตรวจสอบหลุมลึกที่เรียกว่า Abisso del Bifurto (Bifurto Abyss) ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1955 อยู่ในพื้นที่แคว้นคาลาเบรีย ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี ใกล้กับเทือกเขาพอลลิโน (Massiccio del Pollino) ระหว่าง เมือง Cerchiara di Calabria และ San Lorenzo Bellizzi

นักแสดงที่ปรากฏตัวในภาพยนตร์เป็น Speleologist (นักสำรวจถ้ำ) มืออาชีพตัวจริง 12 คนที่ได้รับการคัดเลือกมารับบทนักสำรวจถ้ำ พวกเขาไม่ได้รับบทพูด (ในภาพยนตร์เรื่องนี้แทบไม่มีบทพูดเลย) เนื่องจากพวกเขาไม่ได้เป็นนักแสดง และผู้กำกับต้องการได้ภาพที่เป็นธรรมชาติ ส่วนนักแสดงสมทบคนอื่นๆ ก็เป็นชาวบ้าน เป็นคนเลี้ยงแกะ จริงๆ

ผลงานของ Michelangelo Frammartino ผู้กำกับชาวอิตาเลียน — ชอบบรรยากาศในเรื่อง ความเนิบนาบของทิวทัศน์เทือกเขาธรรมชาติอันสวยงามฝีมือ Renato Berta ผู้กำกับภาพชาวสวิส ตัดสลับกับความมืดมิดของถ้ำ ที่ทอดยาวลงไปใต้ผิวโลก ราวกับอุโมงค์อันไร้ที่สิ้นสุด — ผู้ชมที่เป็นโรคกลัวที่แคบ (Claustrophobia) อาจไม่ถูกใจนัก

Shooting in 100% Humidity
Michelangelo Frammartino on Il Buco

การถ่ายทำต้องใช้ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ลากสายใยแก้วนําแสง (fiber optic) ความยาวหลายร้อยเมตรลงไปในถ้ำ เพื่อถ่ายทอดสัญญาณวิดีโอจากกล้องมายังจอมอนิเตอร์ของ Renato Berta ที่ติดตั้งอยู่บนพื้นดินนอกถ้ำ (Renato Berta มีอายุ 75 ปีแล้ว) ซึ่งเป็นผู้ควบคุมกล้องจากระยะไกล

พวกเขาต้องเริ่มการถ่ายทำตั้งแต่ 7 โมงเช้า และใช้เวลา 4 – 5 ชั่วโมงในการไต่ลงไปยังจุดที่ตั้งกล้อง เพื่อเตรียมการถ่ายทำสำหรับทีมบนดิน ที่จะเริ่มถ่ายตอน 4 โมงเย็น — ซึ่งบางวันพวกเขามีเวลาถ่ายทำเพียง 1 ชั่วโมง เนื่องจากทีมงานต้องใช้เวลาอีก 5 ชั่วโมง ในการปีนกลับออกมาจากถ้ำ

พวกเขาใข้เวลา 6 สัปดาห์ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ด้วยการไต่ลงไปในถ้ำมากกว่า 30 รอบ และมีบางช่วงที่ทีมงานบนดินกับทีมงานใต้ดินไม่ได้เจอหน้ากันเลย เพราะเมื่อทีมงานใต้ดินไต่กลับขึ้นมา ทีมงานบนดินก็แยกย้ายกันไปหมดแล้ว

ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่มีบทบรรยาย หรือเพลงประกอบใดๆ ดังนั้นผู้ชมที่ไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับ Abisso del Bifurto มาก่อน ก็อาจงุนงง และไม่เข้าใจว่า มันเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับอะไรกันแน่ เพราะมันไม่ใช่สารคดี และมันก็ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่มีจุดหักมุม หรือจุดไคลแมกซ์ ที่จะสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมส่วนใหญ่

ในปี 1961 ทีมนักสำรวจถ้ำใช้เวลา 18 วัน จนพวกเขาสามารถลงไปถึงจุดที่ลึกที่สุด วัดความลึกรวมได้ 687 เมตร และได้รับการบันทึกว่าเป็นถ้ำที่มีความลึกที่สุดในโลกเป็นอันดับ 3 รองจากถ้ำ Verëvkina ของสาธารณรัฐอับฮาเซีย ที่มีความลึก 2,212 เมตร และถ้ำ Lamprechtsofen ในประเทศออสเตรีย ที่มีความลึก 1,642 เมตร — แต่สถิตินี้ก็ถูกล้มไป เมื่อมีการสำรวจถ้ำอื่นๆ ที่มีความลึกมากกว่า อาทิ ถ้ำ Krubera/Voronya ของประเทศจอร์เจีย ที่มีความลึก 2,199 เมตร

IL BUCO (THE HOLE) ได้รับคัดเลือกให้เข้าประกวดชิงรางวัลสิงโตทองคำ (Leone d’oro) ในงานเทศกาลภาพยนตร์ Venice โดยฉายรอบปฐมทัศน์ วันที่ 4 กันยายน 2021 และคว้ารางวัล Premio speciale della giuria (Special Jury Prize) ซึ่งเป็นรางวัลรองจาก Leone d’oro (Golden Lion) และ Leone d’argento – Gran premio della giuria (Grand Jury Prize) มาได้ ก่อนจะเข้าฉายในประเทศอิตาลี วันที่ 22 กันยายน

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดเข้าฉายในประเทศไทย วันที่ 8 มิถุนายน 2023 ด้วยชื่อ “ปริศนาถ้ำลับ”