Latest

Das letzte SCHWEIGEN

3000 1688 PRADT
3-MINUTE READ

A young girl is brutally murdered in a wheat field on a hot summer day in 1986. The killer is never found. 23 years later, a 13-year-old girl disappears in similar circumstances, leading the police to suspect the same killer may be at work. A film by Baran bo Odar, starring Ulrich Thomsen, Wotan Wilke Möhring, Katrin Sass, Burghart Klaußner, and Sebastian Blomberg.

Das letzte SCHWEIGEN

The SILENCE
Baran bo Odar
(2010)

★★★★½
 

Das letzte SCHWEIGEN (The last silence) ภาพยนตร์ดัดแปลงจาก Das Schweigen (The silence) หนังสือนิยายอาชญากรรมผลงานของ Jan Costin Wagner นักเขียนชาวเยอรมัน ตีพิมพ์ครั้งแรก วันที่ 1 กรกฎาคม 2007 ภายใต้สำนักพิมพ์ Eichborn และได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษในชื่อ Silence ตีพิมพ์ครั้งแรกวันที่ 5 สิงหาคม 2010 ภายใต้สำนักพิมพ์ Harvill Secker

วันที่ 8 กรกฎาคม 1986 ในฤดูร้อน Pia (Helene Doppler) เด็กสาววัย 11 ปี ถูกข่มขืนและฆ่าในทุ่งข้าวสาลีใกล้กับเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศเยอรมัน ขณะที่ชายอีกคนหนึ่งซึ่งนั่งมาในรถด้วย ยืนเฝ้าดูอยู่ด้วยความตื่นตระหนก ฆาตกรอุ้มร่างเด็กสาวที่ไร้วิญญาณไปใส่ไว้ในที่เก็บของท้ายรถ และโยนจักรยานที่เด็กสาวขี่มาเข้าไปในทุ่งข้าวสาลี ก่อนที่จะขับรถสีแดงหลบหนีไป

วันถัดมา Timo (Wotan Wilke Möhring) ที่นั่งอยู่ในรถคันเดียวกับฆาตกร ตัดสินใจเดินทางออกจากเมือง โดยไม่บอกลาใคร และเขาก็ไม่กลับมาอีกเลย หลังจากนั้นตำรวจก็พบจักรยาน และทำการค้นหาจนเจอศพของ Pia ในทะเลสาบแต่การสืบสวนทั้งหมดก็พบกับทางตัน กลายเป็นคดีที่ตำรวจไม่สามารถหาตัวคนร้ายได้ แม้ว่าจะมีคำให้การจากพยานเด็กที่เห็นรถสีแดงจอดอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ และเห็นว่าคนร้ายโยนหูฟังของเด็กสาวออกมานอกรถ ซึ่งมี DNA ของคนร้ายติดอยู่ จนเวลาผ่านไปถึง 23 ปี

วันที่ 8 กรกฎาคม 2009 มีคนพบจักรยานถูกทิ้งอยู่ในทุ่งข้าวสาลี เมื่อตำรวจเดินทางมาตรวจสอบ สำนักข่าวก็เริ่มเชื่อมโยงว่ามันคือเหตุการณ์แบบเดียวกันที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 23 ปีที่แล้ว Matthias (Oliver Stokowski) มอบหมายหน้าที่ให้กับ David (Sebastian Blomberg) นักสืบที่เพิ่งสูญเสียภรรยาไปเมื่อ 5 เดือนก่อน หลังจากที่ข่าวถูกประกาศออกไปทางโทรทัศน์ พวกเขาก็ได้รับการติดต่อจาก Ruth (Karoline Eichhorn) และ Karl (Roeland Wiesnekker) คู่สามีภรรยาที่เชื่อว่าจักรยานในข่าวเป็นของ Sinikka (Anna-Lena Klenke) ลูกสาวของพวกเขา

เมื่อ Timo เห็นข่าว เขาก็รู้ได้ทันทีว่ามันเป็นผลงานของ Peer (Ulrich Thomsen) เพื่อนที่เขารู้จักสมัยที่เขายังอาศัยอยู่ที่เมืองนั้น และหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น เขาก็ย้ายมาอยู่อีกเมือง ทำงานเป็นสถาปนิก แต่งงานกับ Julia จนมีลูกด้วยกัน 2 คน เขาเปลี่ยนมาใช้นามสกุลของภรรยา ด้วยการอ้างว่าเขาไม่ชอบนามสกุลเดิมของเขา แต่ความจริงแล้วเขาไม่ต้องการให้ใครหาตัวเขาพบ รวมถึง Peer เพื่อนเก่าของเขา

Timo เดินทางไปพบกับ Peer ซึ่งยังคงอาศัยอยู่ที่เดิม เพื่อสอบถามว่าเขาเป็นคนร้ายในคดีเด็กสาวหายตัวไปที่เพิ่งเกิดขึ้นหรือเปล่า แต่ Peer ปฏิเสธว่าเขาไม่ได้เป็นคนทำ และเขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำอย่างนั้น มันน่าจะเป็นแค่ความบังเอิญที่เหมือนกัน เขายอมรับว่าเขาพลั้งมือฆ่าเด็กสาวเมื่อ 23 ปีก่อน เพียงคนเดียวเท่านั้น

ขณะเดียวกัน Krischan (Burghart Klaußner) อดีตตำรวจเจ้าของคดี Pia ซึ่งเกษียณไปแล้ว เชื่อว่าคนร้ายในคดีนี้เป็นคนเดียวกับที่ก่อเหตุเมื่อ 23 ปีก่อน เขาจึงตัดสินใจออกรายการให้สัมภาษณ์พร้อมกับ Elena (Katrin Sass) แม่ของ Pia เพื่อประณามตำรวจที่ยังคงให้ความหวังกับครอบครัวทั้งที่เหยื่อน่าจะถูกฆ่าไปแล้ว และกระตุ้นให้คนร้ายยอมปรากฏตัวออกมา

ภาพยนตร์แนวสืบสวนอาชญากรรมทั่วไปมักจะเน้นฉากแอคชันหรือกลยุทธ์ในการตามหาตัวคนร้าย สรรหาวิธีการมาลวงล่อผู้ชม จุดหักมุมที่เหนือการคาดเดา เพื่อสร้างความตื่นเต้นลุ้นระทึก แต่ Das letzte Schweigen บอกผู้ชมมาตั้งแต่ต้นเลยว่าคนร้ายคือใคร และเน้นให้ความสำคัญกับอารมณ์ของผู้คนที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสีย ทั้งครอบครัวและคนรอบข้าง รวมถึงตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดี ว่าพวกเขาดำเนินชีวิตต่อไปกันได้อย่างไร

แม่ที่สูญเสียลูกสาวไปเมื่อ 23 ปีก่อน ยังคงอาศัยอยู่ที่บ้านหลังเดิม เก็บรักษาห้องของลูกสาวไว้ในสภาพเดิม, พ่อแม่ของเด็กสาวที่หายตัวไป กับความหวังว่าลูกสาวของพวกเขายังคงมีชีวิตอยู่ โทษตัวเองว่าลูกสาวคงจะยังอยู่กับพวกเขา ถ้าในวันนั้นเขาขับรถไปส่งลูก แทนที่จะให้ลูกขี่จักรยานไปเอง, นายตำรวจที่ยังคงยึดติดกับคดีที่เขาไม่สามารถไขได้, คนที่รู้จักตัวจริงของคนร้าย และจมอยู่ในความรู้สึกผิดที่เขาไม่ได้เป็นคนก่อ

นับเป็นภาพยนตร์อาชญากรรมทำออกมาได้ยอดเยี่ยม ทั้งภาพ การเดินเรื่อง เพลงประกอบ รวมถึงนักแสดงทุกคนที่เล่นได้ดีมากสมบทบาทที่ได้รับ ผลงานกำกับภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกของ Baran bo Odar ซึ่งเขาเป็นคนดัดแปลงบทภาพยนตร์จากหนังสือเองด้วย ชอบตอนจบมาก ที่สุดท้ายในเรื่องก็ไม่มีคนรู้ว่าคนร้ายตัวจริงคือใคร

Das letzte SCHWEIGEN ฉายครั้งแรกในงาน Munich Film Festival วันที่ 1 กรกฎาคม 2010 และฉายโรงภาพยนตร์ในประเทศเยอรมนี วันที่ 19 สิงหาคม 2010

ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในสหราชอาณาจักร วันที่ 28 ตุลาคม 2011 และฉายแบบจำกัดจำนวนโรงในสหรัฐอเมริกา วันที่ 8 มีนาคม 2013 ด้วยชื่อ THE SILENCE ซึ่งเป็นชื่อภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการ

REPORT / REQUEST
REPORT / REQUEST