Animal Crossing

Animal Crossing (どうぶつの森) เป็นเกมซีรีย์ของ Nintendo เกมเปิดตัวครั้งแรกในปี 2001 เป็นผลงานสร้างของ 江口勝也 (Katsuya Eguch) และ Hisashi Nogami (野上恒) เป็นเกมจำลองชีวิตสังคมที่เวลาในเกมจะเดินแบบ real-time ตามเวลาในโลกจริง ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเด่นของเกมนี้ ผู้เล่นจะบังคับตัวละครที่เป็นมนุษย์ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยสัตว์ต่างๆ ที่มีลักษณะเหมือนมนุษย์ ในแต่ละวันผู้เล่นจะต้องทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ ตกปลา จับแมลง และขุดหาฟอสซิล

ตั้งแต่ปี 2001 เกมซีรีย์นี้ออกมาทั้งหมด 5 เกมคือ Animal Crossing (Nintendo 64 ปี 2001), Animal Crossing: Wild World (Nintendo DS ปี 2005), Animal Crossing: City Folk (Wii ปี 2008), Animal Crossing: New Leaf (Nintendo 3DS ปี 2012) และล่าสุดคือ Animal Crossing: New Horizons (Nintendo Switch ปี 2020) ที่เพิ่งออกวันที่ 20 มีนาคม 2020

ตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะซื้อเกมนี้มาเล่น เนื่องจากไม่เคยเล่นเกมซีรีย์นี้มาก่อนเพราะมันเป็นเกม exclusive ของ Nintendo — เคยสัมผัสซีรีย์นี้แค่เกมเดียวคือ Animal Crossing: Pocket Camp (2017) ซึ่งลงบน iOS เท่านั้น แต่ก็แค่เล่นไปนิดเดียว ไม่รู้สึกติดอะไร อาจเป็นเพราะมันเป็นแค่ spin-off เพื่อใช้ดึงคนมาเล่นเกมหลักเท่านั้น

หลังจากช่วงเกมนี้ออกก็เห็นเพื่อนโพสบนไทม์ไลน์หลายครั้ง ทำให้รู้สึกอยากลองเล่นดูบ้าง จนได้ฤกษ์สั่งมาในวันที่ 9 เมษายน ซึ่งตอนนั้นก็เป็นช่วง COVID-19 แล้ว เกมก็ขาดตลาด ทั้งจากการขนส่งที่ล่าช้ากว่าปกติ และยอดขายที่พุ่งไม่หยุด เกมนี้สามารถซื้อแบบดิจิทัลได้ แต่ผมก็เลือกซื้อแบบแผ่นเหมือนเดิม — ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Nintendo ประกาศว่าเกม Animal Crossing: New Horizons มียอดขายรวม 13.4 ล้านก๊อปปี้

นอกจากตัวเกมแล้ว Nintendo ยังวางจำหน่ายเครื่อง Nintendo Switch รุ่นพิเศษเป็นลาย Animal Crossing ราคา 35,960 เยน (ประมาณ 10,500 บาท) โดยจะได้ code สำหรับดาวน์โหลดเกม Animal Crossing: New Horizons มาด้วย แต่เวอร์ชันอเมริกาซึ่งราคา 299.99 เหรียญ (ประมาณ 9,305 บาท) จะไม่มีเกมแถม — แน่นอนว่าเครื่องรุ่นนี้ก็ขายดีมาก จนคนนำไปขายโก่งราคาขึ้นไปหลายหมื่นบาท แม้แต่ในญี่ปุ่นเองก็ราคาทะลุ 60,000 เยนไปแล้ว

สำหรับภาค New Horizons นี้ ผู้เล่นก็จะเริ่มด้วยการเลือกตัวละครที่ต้องการใช้ และผู้เล่นก็จะถูกส่งไปที่เกาะแห่งหนึ่ง เพื่อเริ่มเล่นเกม โดยในตอนเริ่ม Tom Nook จะให้คำแนะนำว่าแต่ละวันเราจะต้องทำอะไรบ้าง เพื่อปลดล็อกสิ่งต่างๆ ในเกม อาทิ จับปลา จับแปลง ตีต้นไม้ ตีก้อนหิน ชุดหาฟอสซิล

เมื่อเล่นไปเรื่อยๆ ผู้เล่นจะสามารถอัพเกรดที่อยู่จากเต๊นท์สนามไปเป็นบ้านได้ พร้อมกับหนี้ที่งอกเงยเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่มีการอัพเกรดบ้าน ผู้เล่นจะสามารถสร้างสิ่งประดิษฐ์ได้มากขึ้นโดยใช้ DIY recipe ที่ได้มาจากยิงบอลลูน, ขวดข้อความที่ลอยมาติดชายหาด, ชาวบ้านมอบให้ หรือ ได้จากเพื่อนคนอื่นที่ออนไลน์อยู่ (การออนไลน์จำเป็นต้องใช้ Nintendo Online account ที่จะมีค่าใช้จ่ายปีละ 19.99 เหรียญ ~ประมาณ 620 บาท สำหรับ 1 คน หรือ 34.99 เหรียญสำหรับแบบครอบครัว ซึ่งสามารถใช้ร่วมกันได้ถึง 8 คน ซึ่งก็จะตกคนละไม่ถึง 150 บาทต่อปี)

ก็ต้องยอมรับว่า Nintendo ออกแบบเกมมาได้ดีจริงๆ ทั้งการดึงตัวละครจากภาคเก่าๆ มาใช้ ซึ่งถ้านับรวมจนถึงภาค New Horizons ก็น่าจะมีสิงสาราสัตว์ (ในเกมจะเรียกว่า villager) มากกว่า 400 ตัว แต่บนเกาะของผู้เล่นจะสามารถมีชาวบ้านได้ 10 คนเท่านั้น จึงเกิดการแบ่งชนชั้นของชาวบ้าน ตัวที่น่ารักเป็นที่ต้องการของผู้เล่น ก็จะถูกปล่อยในตลาดด้วยราคาสูงลิ่ว โดยเฉพาะตัวที่เป็น exclusive ของภาค New Horizons ซึ่งไม่มี Amiibo card เรียกออกมาได้

ตัวละครใหม่อย่างแมวใส่แว่นตาที่ชื่อ Raymond ก็เป็นหนึ่งในตัวละครใหม่ที่มักจะอยู่ในอันดับต้นๆ ของตัวละครที่ผู้เล่นต้องการตัวมากที่สุด — เมื่อผู้เล่นได้ชาวบ้านครบ 10 คนแล้ว การจะรับคนใหม่เข้ามา ก็จะเหลือเพียงแค่วิธีการรอให้มีตัวละครมาโผล่ที่ camp site แบบสุ่ม หรือใช้ Amiibo card เรียกตัวละครที่ต้องการมา แต่เนื่องจาก Raymond เป็นตัวละครใหม่ที่ยังไม่มีการ์ดวางจำหน่าย (ซึ่งคาดว่าจะมีในอนาคตเหมือนตัวอื่นๆ) ก็ยิ่งทำให้การหาตัว Raymond ยากกว่าตัวละครอื่นๆ ที่มีการ์ด

อีกวิธีหนึ่งก็คือรอให้มีชาวบ้านขอลาออกจากหมู่บ้าน และผู้เล่นก็จะมีเวลา 1 วันที่จะใช้ Nook Mile Ticket บินไปหาที่เกาะอื่น (ในกรณีที่มีชาวบ้านครบ 10 คนแล้ว เกมจะไม่สุ่มตัวละครออกมาที่เกาะปริศนา)

และเนื่องจากความซับซ้อนยุ่งยากเช่นนี้ บางคนบินใช้ตั๋วกัน 300 – 400 ใบก็ยังหาไม่เจอ บางคนบินครั้งเดียวก็เจอ ทำให้ค่าตัวของ Raymond พุ่งขึ้นทะลุตั๋ว 800 ใบมาแล้ว

ในเกม Animal Crossing จะมีค่าเงินอยู่ 2 แบบคือ Bells ซึ่งมีลักษณะเป็นเหรียญ ได้มาจากการขายของต่างๆ สามารถใช้ซื้อของในร้าน ใช้ชำระหนี้ได้ และแบบที่สองคือ Nook Mile ซึ่งได้มาจากการทำมิชชั่นต่างๆ ในแต่ละวัน เมื่อสะสมได้มากพอ ก็สามารถนำไปแลกเป็นของต่างๆ ได้ อาทิ Nook Mile Ticket ที่ต้องใช้ 2,000 Nook Miles ในการแลกตั๋ว 1 ใบ

เมื่อผู้เล่นพัฒนาบ้านตัวเองและเกาะไปได้ถึง 3 ดาว (ใช้เวลาการเล่นประมาณ 10 วัน) K.K. ซึ่งเป็นหมาซูเปอร์สตาร์ก็จะมาเยี่ยมเกาะ ก็จะถือว่าผู้เล่นได้จบเกมแล้ว ใน phase 1

ผู้เล่นก็จะสามารถปลดล็อก Island Designer ซึ่งให้อิสระผู้เล่นในการปรับเปลี่ยนรูปแบบของเกาะ หรือ Terra Forming สามารถสร้างพื้นทางเดินแบบใหม่ สามารถสร้างหน้าผา สร้างบึง ขุดคลอง พร้อมกับเป้าหมายใหม่คือการพัฒนาเกาะให้ไปถึงระดับ 5 ดาว ซึ่งก็จะใช้เวลารวมประมาณ 1 เดือน ตามเวลาในโลกจริง

นอกจากการพัฒนาเกาะให้ถึงระดับ 5 ดาวแล้ว ตัวเกมยังมีการให้คะแนนการตกแต่งบ้านของผู้เล่น คะแนนจะเปลี่ยนไปตามของที่ผู้เล่นจัดวางในบ้าน โดยที่ระดับสูงสุด Gold Trophy ผู้เล่นจะต้องทำคะแนนได้ 150,000 คะแนนขึ้นไป เมื่อทำได้แล้วผู้เล่นก็จะได้รับจดหมายพร้อมกับถ้วยรางวัล

Nintendo ยังคงปล่อยอัพเดตมาเรื่อยๆ ซึ่งแต่ละเดือนก็จะมี event ใหม่ๆ เช่นเดือนมิถุนายน ก็จะเป็น wedding season ที่ผู้เล่นต้องรับบทเป็น decorator ให้กับคู่บ่าวสาว พร้อมกับถ่ายภาพด้วย เพื่อสะสม Heart Crystal เอาไว้แลกของธีมแต่งงาน

ก็นับว่าเป็นเกมที่ซื้อมาเล่นแล้วคุ้มค่าเงินเกมหนึ่ง เพราะเล่นไปไม่น้อยกว่า 350 ชั่วโมงแล้ว หลังจากได้เกาะ 5 ดาว บ้านก็ได้รางวัลสูงสุดแล้ว ความรู้สึกอยากเล่นก็ค่อยๆ ลดลง แต่ก็ยังเห็นผู้เล่นจำนวนมากยังสนุกกับการแต่งเกาะ แต่งตัวให้กับชาวบ้านที่ไปเสาะหากันมา

สิ่งหนึ่งที่ชอบคือ custom design ที่ยอมให้ผู้เล่นสร้างสรรค์ pattern ขึ้นมาใช้ในเกมเอง แม้ว่าจะมีแค่ 50 ช่องให้ใช้ก็ตาม

ส่วนที่ไม่ชอบก็มีหลายอย่าง เช่น การตกปลาหรือจับแมลงแล้วมี reaction ซ้ำๆ กัน ลองคิดดูว่า การตกปลาจับแมลงเป็นพันๆ ครั้งแล้วต้องทนดูข้อความเห่ยๆ เป็นพันๆ ครั้งมันก็น่ารำคาญนะ หรือการ random ของตัวละครพิเศษ Redd สุนัขจิ้งจอกที่ล่องเรือมาขายงานศิลปะ ที่ผู้เล่นต้องซื้อไปบริจาคให้พิพิธภัณฑ์ รวมทั้งหมด 43 ชิ้น แต่ Redd ไม่ได้มาทุกอาทิตย์ และผู้เล่นสามารถซื้องานศิลปะได้แค่ครั้งละ 1 ชิ้น อีกทั้งยังมีบางครั้งที่เอาของปลอมมาขายทั้งหมด ทำให้การซื้องานศิลปะ ต้องใช้เวลาเกือบ 1 ปีในโลกจริง ในการสะสมให้ครบทั้งหมด