สี่แพร่ง
4BIA
(2008)
สี่แพร่งเป็นภาพยนตร์แนวสยองระทึกขวัญ แบบเรื่องสั้น ทั้งหมดสี่เรื่อง โดยผู้กำกับสี่คน
เหงา
ยงยุทธ ทองกองทุน
แพร่งที่หนึ่ง เป็นเรื่องราวของ สาวน้อยตกงาน ที่เพิ่งประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ไป เมื่อสามเดือนก่อน ซึ่งทำให้เธอบาดเจ็บอย่างหนัก และขาหัก วันวันเธอก็ได้แต่อยู่อย่างเหงาเหงา ส่ง sms หาเพื่อนสนิทของเธอ เข้าเว็บหางาน …วันหนึ่ง เธอก็ได้รับ sms จากเพื่อนใหม่ ที่ส่ง sms มาหาเธอ บอกว่าอยากรู้จัก ด้วยความเหงา เธอก็ได้ส่ง sms ตอบโต้กับเขาอย่างมีความสุข จนกระทั่งเธอได้รับข้อความแปลกชวนสงสัย
เรื่อง “เหงา” แทบจะไม่มีบทพูดเลย มีเพียงการเล่าเรื่องผ่านข้อความ sms กับการแสดงของ มณีรัตน์ คำอ้วน ร่วมด้วยองค์ประกอบต่างต่าง ทั้งฉากและเสียงประกอบ ทำให้ดูน่าสนใจ และน่าติดตาม ดึงดูดให้ผู้ชมได้อย่างยอดเยี่ยม
ยันต์สั่งตาย
ปวีณ ภูริจิตปัญญา
แพร่งที่สอง เป็นเรื่องราวของกลุ่มนักเรียนเกเร ที่รุมแกล้งคนที่ไม่มีทางสู้ จนกระทั่งวันหนึ่ง คนที่ถูกแกล้งทนไม่ไหว เกิดความแค้น จึงใช้ไสยศาสตร์เข้าช่วย เพื่อจัดการพวกนักเรียนเกเรที่เคยรังแกเขาทุกคน อย่างสาสม
เรื่องนี้เพื่อนที่ไปดูด้วย บอกว่ามาจากการ์ตูนหรือหนังสือ? สักอย่าง แต่ไม่เห็นขึ้นในเครดิตไว้ (หรือขึ้นแต่ไม่เห็น)
edited: ยันต์สั่งตาย มาจากผลงานการ์ตูนของเอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ คนเดียวกับที่เขียนการ์ตูนที่กลายเป็นหนัง 13 เกมสยอง และเป็นหนึ่งในทีมเขียนบท (ขอบคุณข้อมูลโดยคุณ ren)
เรื่องนี้พล็อตเรื่องน่าสนใจ อีกทั้งเทคนิคที่ใช้เล่าเรื่องในตอนต้น ใช้ภาพเคลื่อนไหวโคลสอัพ สลับไปมา สร้างความอึดอัดและระทึกได้อย่างดี เอฟเฟคฉากโหดโหด ก็ทำได้สมจริงทีเดียว มีการใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิค เข้ามาช่วยด้วยหลายช็อต แต่น่าเสียดายที่ใช้มากจนเกินพอดี จนดูแล้วรู้สึกว่ามันเฟคไปหมด ในตอนช่วงท้ายของเรื่อง ตอนนี้เลยกลายเป็นตนที่ตอนที่ผมชอบน้อยที่สุดไป
คนกลาง
บรรจง ปิสัญธนะกูล
แพร่งที่สาม เป็นเรื่องของเพื่อน 4 คนที่ไปเทียวป่าล่องแม่น้ำกัน กลางคืนก็กางเต๊นท์นอนกันในป่า แล้วก็มีคนเล่าเรื่องผีผี ว่าด้วยเรื่องคนที่นอนริม จะมีผีมาหลอก จากนั้นก็เริ่มล้อเล่นกันว่า ในกลุ่มถ้ามีใครตายไปก่อน จะตามมาหลอกคนที่นอนตรงกลาง วันรุ่งขึ้นทั้งหมดก็ไปลองแก่งกัน แต่เกิดอุบัติเหตุเรือล่ม คนหนึ่งในกลุ่มกำลังจมน้ำ อีกคนเลยลงไปช่วย แต่คนทึ่ลงไปช่วยกลับหายไปในสายน้ำเชียวกราก คนที่เหลือพยายามตามหาจนพลบค่ำก็ไม่พอ จึงกลับมานอนที่เต๊นท์ เพื่อที่วันรุ่งขึ้นจะได้ออกไปแจ้งเจ้าหน้าที่ แต่แล้วในคืนนั้น เพื่อนคนที่หายไปก็เดินกลับมา
เรื่อง “คนกลาง” นี่เป็นเรื่องที่ชอบที่สุด ในจำนวนทั้งสี่เรื่อง เป็นการผสานเรื่องตลก เข้ากับเรื่องสยอง ได้อย่างลงตัวมากมาก นักแสดงทุกคนก็แสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติ ดูแล้วมีทั้งอารมณ์ฮา สลับกับสยองลึกลึก
เที่ยวบิน 224
ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ
แพร่งที่สี่ “Last Fright” เป็นเรื่องของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ที่ถูกเลือกให้มาทำงานในเที่ยวบินพิเศษ ส่งเจ้าหญิงไปยังภูเก็ต ระหว่างบินก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ว่าด้วยเรื่องราวความเกี่ยวข้องของบุคคลทั้งสอง แต่แล้วในคืนนั้นเอง เจ้าหญิงเกิดสวรรคต กะทันหัน และทางประเทศนั้นก็ต้องการให้ส่งพระศพกลับทันที เจ้าหน้าที่หญิงคนเดิมจึงต้องกลับมาทำงานอีกครั้ง เพื่ออัญเชิญพระศพกลับประเทศ แต่ในระหว่างบินนั้นเอง ก็มีเหตุการณ์ประหลาดอันน่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้น
เรื่องนี้ นำแสดงโดย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ และก็เป็นสาเหตุที่ทำให้อยากไปดู สี่แพร่ง ในทีแรก และก็ไม่ผิดหวังเลย การแสดงของพลอย ทำได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย แม้ว่าบทเรื่องนี้จะไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก แต่เพียงฉากบนเครื่องบิน ระหว่างที่เจ้าหญิงยังมีชีวิตอยู่ ก็ทำได้ระทึกมากแล้ว
สรุปว่าแม้จะเป็นหนังสั้นความยาวแค่เรื่องละ ประมาณสามสิบนาที แต่คุณภาพก็คับแก้วนะฮะ ใครที่ชอบหนังแนวสยองขวัญ ไม่ควรพลาดไปชมในโรงภาพยนตร์ อีกทั้งถ้าสังเกตสักหน่อย จะเห็นว่ามจุดเชื่อมโยงของเรื่องทั้งสี่ อยู่ในแต่ละเรื่องย่อยด้วย หนังพยายามเล่นกับเลขสี่ อันเป็นเลขอัปมงคลตามความเชื่อของชาวเอเชีย ญี่ปุ่น เลขสี่ ออกเสียงว่า ชิ (し) ซึ่งไปพ้องเสียงกับ 死 ที่ออกเสียงเหมือนกัน แต่แปลว่าความตาย จีน เลขสี่ (四) ก็ไปพ้องเสียงกับ ซี้ (死) ที่แปลว่าตายเหมือนกัน
อ้อ ฉากเปิดเรื่องสวยดีนะ ที่เลือดไหลเป็นตัวหนังสือ แต่ยังไม่ค่อยเนียน ถ้าเทียบกับ Musik im blut มันอาจจะเป็นแรงบันดาลใจ
ส่วนของเวอร์ชันของ nologo เชิญไปสดับที่ยูทูป
เรื่่องที่สามแอบขำแบบน่ากลัวๆ