U-Carmen eKhayelitsha
2005 | Mark Dornford-May
สุดยอดดดด! (เมื่อวานไปดูรอบสื่อที่ House RCA มาครับ ขอบคุณ Popcorn Magazine)
Carmen เป็นอุปรากรภาษาฝรั่งเศส ผลงานการประพันธ์ของ Georges Bizet ส่วน Libretto (เนื้อร้อง การแสดง เนื้อเรื่อง) นั้นเขียนโดย Meihac และ Halévy ซึ่งดัดแปลงมาจากนิยายของ Prosper Mérimée เรื่อง Carmen (1845)
หลังจากเปิดการแสดงครั้งแรก ณ Opéra Comique (Paris) ในวันที่ 3 มีนาคม 1975 อุปรากรเรื่องนี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า เป็นความผิดพลาด ฉาบฉวย เกินจริง แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงปัจจุบัน อุปรากรเรื่องนี้กลายเป็น อุปรากรเรื่องหนึ่งที่โด่งดัง และเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดในโลกทีเดียว ด้วยท่วงทำนองที่ไพเราะของ ฉarmen บทเพลงจากอุปรากรนี้ ถูกนำไปใช้ ในงานต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์ ละคอน หรือแม้แต่ในโฆษณา! อาทิ เพลง “Prelude”, “L’amour est un oiseau rebelle” และ “Toréador, en garde”
เนื้อเรื่องเดิมของ Carmen จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมือง Seville ประเทศสเปน เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่สาว Micaëla ซึ่งเดินทางมาจากบ้านเกิด เพื่อมาตามหาคู่หมั้นและบอกข่าวเรื่องแม่ให้กับ José แต่ก็ไม่พบ และกลับถูกทหารคนอื่นๆ ในกองมาทำลวนลามจนเธอต้องหนีไป
ส่วน Carmen นั้นเป็นยิปซีสาว ทำงานที่โรงงานยาสูีบ และเป็นที่หมายปองของชายทั้งหลาย เมื่อถึงเวลาพักก็จะมีผู้ชายทั้งหนุ่มแก่ มารอเพื่อชมความงามของ Carmen เรียกร้องให้เธอตอบรับรักของพวกเขา ในตอนนี้เองที่มีเพลง “L’amour est un oiseau rebelle” (ซึ่งเป็นเพลงที่โด่งดังที่สุดเพลงหนึงของเรื่อง Carmen) เมื่อ Carmen ถูกเซ้าซี้มากๆ ให้เลือกชายคนใดคนหนึ่ง เธอจึงเลือก José ชายคนเดียวที่ไม่มีท่าทีว่าจะสนใจเธอเลย!
Carmen ทะเลาะกับสาวโรงงานอีกคน จนเกิดเรื่องใหญ่เมื่อ Carmen ใช้มีดกรีดหน้าของอีกฝ่าย และในที่สุด Carmen ก็ถูกจับกุมและนำตัวไปโดย José แต่ในระหว่างการเดินทางไปที่คุมขัง Carmen ก็ได้ใช้เสน่ห์ยั่วยวนหลอกล่อ (Des remparts de Seville) ให้ José ปล่อยตัวเธอไป
Carmen หลบหนีการจับกุมมาที่ Lillas Pastia’s inn สถานที่ที่พวกคนประกอบอาชีพไม่ค่อยสุจริต มันจะมาดื่มกินกัน แต่ Zuniga ซึ่งเป็นหัวหน้าของ José ได้ตามมาจนพบเธอ (เขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ตกหลุมรัก Carmen) แม้แต่ Matador Escamillo ก็ยังต้องการความรักจาก Carmen! แต่เธอกลับคิดถึงแต่ José
ระหว่างนั้น José ก็ไ้ด้ตามมาที่ Lillas Pastia’s inn ตามที่ Carmen ได้บอกไว้ก่อนที่เขาจะปล่อยเธอให้หนีไป ปรากฏว่าเขากลับถูกบังคับให้ร่วมคณะโจรที่นำโดย Dancairo และ Remendado ซึ่ง Carmen ก็อยู่ในกลุ่มโจรนี้ด้วย
หลังจากการลับลอบคนสินค้าเถื่อน Carmen ก็หมดรักในตัว José เนื่องจากคำทำนายที่ว่าหากเขาและเธออยู่คู่กัน สุดท้ายก็จะต้องจบลงด้วยความตาย Carmen จึงหันไปหา Escamillo แทน และปฏิเสธความรักของ Kosé
Micaëla ได้ตามมาจนพบ José เพื่อบอกข่าวว่าแม่ของเขาต้องการพบ ให้เขากลับบ้านทันที ซึ่งในตอนแรกเขาก็ไม่ยอมแต่ท้ายสุดก็ต้องไป เมื่อ Micaëla บอกว่าแม่ของเขากำลังจะตาย
ในเวลาต่อมา Carmen ก็ได้ไปชม Escamillo สู้วัว และได้ตั้งใจว่าจะมอกบความรักให้กับ Escamillo ถ้าเขาได้รับชัยชนะกลับมา แต่ระหว่างนั้น José ได้กลับมาเผชิญหน้ากับเธออีกครั้ง และเขาต้องการความรักความมั่นใจจาก Carmen แต่เธอก็ได้ปฏิเสธความรักของเขาและขว้างแหวนใส่ ทำให้ José โกรธและใช้มีดสังหาร Carmen ในที่สุด
ภาพยนตร์เรื่อง U-Carmen eKhayelitsha เป็นภาพยนตร์ที่เนื้อเรื่องเหมือน Carmen ทุกประการแต่เปลี่ยนเป็นยุคปัจจุบัน ในเมือง Khayelitsha ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของแอฟริกา และภาษาที่ใช้ในเรื่อง รวมถึงบทเพลงก็เป็นภาษา Xhosa! (ภาษาที่เกิดมาก็เพิ่งเคยได้ฟัง แต่พอร้องเป็นเพลงก็ยังไพเราะ แม้จะฟังไม่ออกเลยก็ตาม)
ทุกอย่างถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นปัจจุบันหมด ทั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย และยังมีการแทรกสอด ท่วงทำนองของแอฟริกัน ลงไปได้อย่างลงตัวอีกด้วย จากเมืองที่สวยงามกลายเป็นสลัม จากทหารเปลี่ยนเป็นตำรวจ จากการลักลอบขนของเถื่อน กลายเป็นการลักลอบขนยา!
แต่เนื้อหาและจิตวิญญาณของ Carmen ยังคงอยู่อย่างครบถ้วนทุกกระบวนการ Carmen รับบทโดย Pauline Malefane ที่ดูไม่เหมือน Carmen ในอุดมคติเลยแม้แต่น้อย แต่ในเรื่องนี้เธอคือ Carmen อย่างแท้จริง!
ด้วยการถ่ายทำแบบดิบๆให้อารมณ์แบบหนังเรื่อง Cidade de Deus แต่ใช้เพลง opera เป็นตัวเดินเรื่อง นับเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมาก และมีการถ่ายแบบ long shot ซึ่งเหมือนถ่ายละคอนเวทีอยู่ในหลายฉาก ยิ่งช่วยเสริมความหนักแน่นของเนื้อหาอารมณ์ ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก นักแสดงทุกคนแสดงออกได้อย่างดีเยี่ยม และนักแสดงทุกคนก็เป็นนักร้องตัวจริง เสียงจริง
U-Carmen eKhayelitsha ได้รางวัล Golden Bear จากงานเทศกาลภาพยนตร์ Berlin ปี 2005 และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ ภาพยนตร์จากแอฟริกาใต้ได้รางวัลนี้ ภาพยนตร์เรื่อง U-Carmen eKhayelitsha จะเข้าฉายที่ House RCA ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2006
L’amour est un oiseau rebelle
que nul ne peut apprivoiser,
et c’est bien en vain qu’on l’appelle,
s’il lui convient de refuser.
Rien n’y fait, menace ou prière,
l’un parle bien, l’autre se tait
Et c’est l’ature que je préfère,
Il n’a rien dit mais il me plaît.
L’amour! l’amour! l’amour! l’amour!
L’amour est un oiseau rebelle
L’amour est enfant de Bohême,
il n’a jamais, jamais connu de loi
si tu ne m’aimes pas, je t’aime
si je t’aime, prends garde à toi!
Prends garde à toi!
L’amour est enfant de Bohême
L’oiseau que tu croyais surprendre
battit de l’aile et s’envola
l’amour est loin, tu peux l’attendre
tu ne l’attends plus, il est là!
Tout autour de toi, vite, vite,
il vient, s’en va, puis il revient
tu crois le tenir, il t’évite,
tu crois l’éviter, il te tient.
L’amour! l’amour!, l’amour!, l’amour!
Tout autour de toi, vite, vite
L’amour est enfant de Bohême,
Si je t’aime, prends garde à toi!
Prends garde à toi!
L’amour est enfant de Bohême
Love, love is a rebel bird
that nobody can ever tame,
and you call him quite in vain
if it suits him not to come.
Nothing helps, nor threat nor prayer.
One man talks well, the other’s mum
it’s the other one that I prefer.
He’s silent but I like his looks.
Love! Love! Love! Love!
Love, love is a rebel bird
Love, love is a gypsy child,
it has never, never, known a law
love me not, then I love you;
if I love you, you’d best beware!
Beware!
Love, love is a gypsy child
The bird you thought you had caught
spreads it’s wings and flies away
love stays away, you wait and wait
when least expected, love appears!
All arounf you, swift, so swift,
it comes, it goes, and then returns
you think you hold it fast, it flees
you think you’re free, it holds you fast
Love! Love! Love! Love!
All around you, swift, so swift
Love, love is a gypsy child
if I love you, you’d best beware!
Beware!
Love, love is a gypsy child