ผลงานการสร้างของ Dean DeBlois ที่เป็นทั้ง writer, director, และ executive producer

How to Train Your Dragon สร้างจากหนังสือชื่อเดียวกัน เป็นงานเขียนของ Cressida Cowell ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2003 จนถึง 2015 รวมทั้งหมด 12 เล่ม (How to Train Your Dragon, How to Be a Pirate, How to Speak Dragonese, How to Cheat a Dragon’s Curse, How to Twist a Dragon’s Tale, A Hero’s Guide to Deadly Dragons, How to Ride a Dragon’s Storm, How to Break a Dragon’s Heart, How to Steal a Dragon’s Sword, How to Seize a Dragon’s Jewel, How to Betray a Dragon’s Hero, How to Fight a Dragon’s Fury)

ภาพยนตร์ภาค The Hidden World ก็เป็นฉากปิดตำนานการเดินทางที่ยาวกว่า 9 ปี นับจากภาคแรกที่ออกในปี 2010 ของ Hiccup และ Night Fury (Toothless) มังกรระดับ Alpha ที่มีพลังสามารถควบคุมบงการเผ่าพันธุ์มังกรทั้งโลกได้ (มังกรหรือเอเลี่ยนกันนะ)

เนื้อเรื่องในภาคนี้เป็นเรื่องราวหนึ่งปีหลังจากภาคสองที่สู้กับ Draco และ Bewilderbeast ที่ Hiccup และ Toothless ยังคงออกตามช่วยเหลือมังกรต่างๆ ที่ถูกคนจับตัวไปแล้วนำทางเหล่ามังกรมาอยู่ที่ Berk สถานที่เดียวบนโลกที่มังกรสามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้

แต่ด้วยจำนวนมังกรที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พื้นที่ของ Berk ไม่สามารถรองรับมังกรทั้งหมดได้ อีกทั้งยังมีพวกตัวร้ายที่ต้องการจับตัว Night Fury และฆ่ามังกรทั้งหมด ทำให้ Hiccup ต้องพยายามตามหาสถานที่ที่เรียกว่า Hidden World จากข้อมูลและความทรงจำเกี่ยวกับพ่อของเขา และแผนที่ที่เขาทำขึ้นจากการเดินทางกับ Toothless

ภาคนี้มีมังกรใหม่อีกหลายตัว เพิ่มจากเดิมที่คิดว่ามีหลายสิบหลายร้อยก็มากแล้ว มีตัวนี่น่าสนใจอย่าง Hobgobbler ที่ผู้กำกับอยากได้มังกรที่เหมือน French bulldog แต่ทำออกมาแล้วรู้สึกเหมือนตัว Critters มากกว่า

นางเอกของเรื่องก็ออกมาในภาคนี้เป็นครั้งแรก เผ่าพันธุ์เดียวกับ Night Fury แต่เป็นสีขาว และมีความาสามารถพิเศษคือ สามารถเปลี่ยนเกล็ดของตัวเองให้เป็นเหมือนกระจกสะท้อนภาพของสิ่งแวดล้อม จนเหมือนว่าสามารถหายตัวได้

How to Train Your Dragon: The Hidden World เป็นภาคบทสรุปที่ทำออกมาได้ลงตัวดีมาก และคิดว่าคงเข้าชิง Academy Awards อีกรอบ แม้จะพลาดมาแล้วถึง 2 ครั้ง ในปี 2010 และ 2014

คงได้แค่แอบหวังว่าปีนี้ How to Train Your Dragon จะชนะได้สักครั้ง มันมีอนิเมชันไม่กี่เรื่องในโลกหรอกที่สามารถทำภาคต่อออกมาได้ดีพอๆ กับภาคแรก ไม่ต้องพูดถึงภาคสามภาคสี่

แต่ในปีนี้ยังมีอนิเมชันภาคต่อหลายเรื่องที่น่าจะออกมาช่วงชิงตำแหน่ง Best Animated Feature อาทิ Frozen 2, The Lego Movie 2: The Second Part, The Secret Life of Pets 2 และที่สำคัญมี Toy Story 4 ภาคต่อของ Toy Story 3 ที่เคยได้ Best Animated Feature ปี 2010 ที่ได้เข้าชิงพร้อม How to Train Your Dragon และ L’Illusionniste