A Series of Unfortunate Events
2004 | Brad Silberling
ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากนิยายเรื่องดัง A Series of Unfortunate Events ของ Lemony Snicket (Daniel Handler) ที่มีคำโปรยที่น่าสนใจอย่างนี้
Dear Reader
I’m sorry to say that the book you are holding in your hands is extremely unpleasant. It tells an unhappy tale about three very unlucky children. Even though they are charming and clever, the Baudelaire siblings lead lives filled with misery and woe. From the very first page of this book… continuing on through the entire story, disaster lurks at their heels. One might say they are magnets for misfortune.
แม้แต่ประวัติของผู้เขียนก็ยังเป็นปริศนา
Lemony Snicket was born before you were, and is likely to die before you as well. His family has roots in a part of the country which is now underwater, and his childhood was spent in the relative splendor of the Snicket Villa which has since become a factory, a fortress and a pharmacy and is now, alas, someone else’s villa. To the untrained eye, Mr. Snicket’s hometown would not appear to be filled with secrets. Untrained eyes have been wrong before.
นักอ่านจำนวนนับล้านของหนังสือซีรีย์เรื่องนี้ต่างก็มีคำถามเกิดขึ้นในสมองแทบจะเป็นคำถามเดียวกันทั้งหมด … ใครคือ เลโมนี่ สนิเคตส์? ทำไมไม่เคยมีใครเห็นหน้าของเขาทางโทรทัศน์หรือสื่ออื่นๆ? ทำไมเขาถึงหมกมุ่นอยู่กับเด็กสามคนที่โชคร้ายและผู้หญิงที่ชื่อ เบียทริสซ์ (Beatrice)? …จนต้องมีหนังสืออีกเล่มในชื่อ Lemony Snicket: The Unauthorized Autobiography ออกมาจำหน่ายให้แฟนๆได้เสาะแสวงหาความจริงกัน
หนังสือในชุด A Series of Unfortunate Events ปัจจุบันได้ตีพิมพ์ออกมาแล้ว 11 เล่ม ดังนี้
1. The Bad Beginning
2. The Reptile Room
3. The Wide Window
4. The Miserable Mill
5. The Austere Academy
6. The Ersatz Elevator
7. The Vile Village
8. The Hostile Hospital
9. The Carnivorous Carnival
10. The Slippery Slope
11. The Grim Grotto
โดยตัวภาพยนตร์นี้เป็นการเขียนบทที่ใช้เนื้อหาของเล่มที่ 1, 2 และ 3 มาเรียงร้อยต่อกันใหม่ให้กลายเป็นภาพยนตร์ 1 ตอนใช้ชื่อว่า Lemony Snicket’s A Series of Unfortunate Events (ชื่อภาษาฝรั่งเศสจะใช้ว่า Les Desastreuses aventures des orphelins Baudelaire แปลได้ใจความว่า การผจญภัยที่โชคร้ายของเด็กกำพร้าโบเดอแลร์)
เรื่องราวในภาพยนตร์จะเริ่มต้นจากการเล่าเรื่องของ Lemony Snicket (ให้เสียงโดย Jude Law) ที่เป็นเหมือผู้สังเกตการณ์สิ่งที่เกิดขึ้นกับสามพี่น้องตระกูลโบเดอแลร์ เมื่อบ้านของพวกเขาลุกเป็นไฟอย่างปริศนาพร้อมกับพ่อและแม่ของเขาที่อยู่ในนั้น ทำให้พวกเขาต้องไปอยู่กับญาติลำดับที่หนึ่ง Count Olaf (แสดงโดย Jim Carrey) นักแสดงประหลาดที่หวังจะฮุบสมบัติจากการเป็นผู้ปกครองของสามพี่น้องตระกูลโบเดอแลร์ Violet (แสดงโดย Emily Browning / มีผลงานจากเรื่อง Ned Kelly, Darkness Falls, Ghost Ship, The Man Who Sued God) เด็กผู้หญิงที่เป็นนักประดิษฐ์ที่ว่ากันว่าเก่งที่สุดในโลกในระดับอายุเท่านี้, Klaus (แสดงโดย Liam Aiken / มีผลงานจากเรื่อง Good Boy!, Road to Perdition, Sweet November, Stepmom, The Object of My Affection) เด็กชายที่รักการอ่านเป็นชีวิตและสามารถจำทุกอย่างที่เขาอ่านได้ และ Sunny (แสดงโดย Kara และ Shelby Hoffman เด็กน้อยฝาแฝดอายุ 2ขวบครึ่ง ที่มีผลงานอยู่ในซีรีย์โทรทัศน์เรื่องดังอย่าง General Hospital ที่ฉายกันต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1963) เด็กน้อยที่มีความชาญฉลาดและมีความสามารถพิเศษคือฟันที่แหลมคมและขากรรไกรที่กล้าแข็ง)
I’m sorry, I don’t speak monkey… BA-NA-NA
เนื่องจากผมยังไม่มีโอกาสได้อ่านหนังสือชุดนี้ (เพราะกะว่าจะดูหนังก่อนและค่อยไปหามาอ่าน ถ้าหนังทำดี) จึงไม่สามารถบอกได้ว่าทำได้ใกล้เคียงกับใจความของหนังสือเพียงใด แต่จากการรับชมภาพโดยรวมแล้ว ก็เป็นภาพยนตร์ที่ดีเรื่องหนึ่งกับเรื่องราวที่มืดมนที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีศิลป์ การแสดงแบบ overacting ของ Jim Carrey ก็สร้างสีสันได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แล้วก็ยังมีดาราสมทบที่น่าสนใจอย่าง Meryl Streep ในบทป้า Josephine และ Catherine O’Hara ในบทของผู้พิพากษา Strauss
ส่วนที่ชอบเป็นพิเศษก็คงเป็นฉากเปิดที่ทำได้น่ารักผิดคาด รวมถึงการแสดงบทพูดของ Jim Carrey และการแสดงที่น่ารักอย่างลงตัวของเด็กๆทั้งสาม
ป.ล. ชมภาพยนตร์จบแล้วอย่างเพิ่งรีบลุกออกจากโรงภาพยนตร์นะครับ เพราะว่าตอนขึ้น End Credit จะมี animation กวนๆของ A Series of Unfortunate Events ให้ชมต่อเนื่องไปจนจบเครดิตครับ