THOR
THE DARK WORLD
Alan Taylor
(2013)
เมื่อครั้งอดีตกาลกว่าพันล้านปีก่อน Bor (Tony Curran) บิดาของ Odin (Anthony Hopkins) ได้ต่อสู้กับ Malekith (Christopher Eccleston) ดาร์กเอลฟ์เพื่อหยุดยั้งการปลดปล่อย Aether หนึ่งใน Infinity Stones ที่สามารถทำลายล้างทุกสิ่งในจักรวาล โดยกองทัพของ Asgard สามารถถล่มกองทัพของดาร์กเอลฟ์จนพินาศสิ้นและนำ Aether ไปซ่อนไว้ในสถานที่ลับที่ไม่มีใครหาพบ แต่ Malekith หนีรอดไปได้และเฝ้ารอวันที่เขาจะชิง Aether กลับมา
Jane (Natalie Portman) และ Darcy (Kat Dennings) เดินทางไปตรวจสอบปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นในโรงงานร้างแห่งหนึ่งในลอนดอน ระหว่างนั้น Jane ก็ถูกพลังงานบางอย่างดูดร่างเธอข้ามไปยังที่ซ่อน Aether ซึ่ง Heimdall (Idris Elba) ไม่สามารถมองเห็นเธอ ร่างกายของ Jane ได้ซึมซับ Aether ไว้โดยที่เธอไม่รู้ตัว
เมื่อ Jane ข้ามกลับมายังโลกมนุษย์อีกคร้งก็พบกับ Thor (Chris Hemsworth) ที่ตามมาดูด้วยความเป็นห่วง และพบว่า Jane สามารถปลดปล่อยพลังงานมหาศาล เขาจึงพาตัว Jane กลับไป Asgard เพื่อรักษา ซึ่งมีเพียง Odin ที่รู้ว่ามันคือ Aether ที่เชื่อกันว่าถูกทำลายไปแล้วพร้อมกับดาร์กเอลฟ์
พลังของ Aether ถูกปลดปล่อยและปลุก Malekith ให้ตื่นจากการหลับไหล เป็นสัญญาณว่าถึงเวลาที่ดาร์กเอลฟ์จะกลับมาทวงอำนาจคืนอีกครั้ง กองทัพของ Malekith จึงเคลื่อนพลบุกถล่ม Asgard
THOR: THE DARK WORLD เป็นภาคต่อที่ไม่ค่อยน่าจดจำเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะการออกแบบตัวร้ายที่ยังไม่น่าประทับใจ การต่อสู้ที่ดูไม่น่าเชื่อ ตัวร้ายที่หลับไหลมาหลายล้านปีแต่มีเทคโนโลยีสู้กับ Asgard ยุคปัจจุบันได้ หรือเทคโนโลยีไม่มีการพัฒนามานานมากแล้วกันแน่ นอกจากนั้นยังมีตัวละครเยอะเกิน และยังมีซับพล็อตที่ยุ่งเหยิงจนงงว่าอันไหนคือส่วนที่สำคัญ หรือส่วนที่สำคัญกลับถูกกลบโดยส่วนที่ไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่