รักแห่งสยาม
LOVE OF SIAM
ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล
Chookiat Sakveerakul
(2007)
l’amour commence là seulement où il n’est plus de don à attendre.
Love begins when nothing is looked for in return.
— Antoine de Saint-Exupéry
มิวและโต้งเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก โดยมิวอาศัยอยู่กับอาม่า ส่วนโต้งอาศัยอยู่กับครอบครัวอบอุ่น มีพ่อแม่และพี่สาว แต่แล้วทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อครอบครัวโต้งได้เดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่ และแตงผู้เป็นพี่สาวได้ขออนุญาตพ่อแม่ เพื่อไปเที่ยวต่อกับเพื่อนอีกสองสามวัน จากนั้นเธอก็ไม่ได้กลับมาที่บ้านอีกเลย โดยมีเพียงข่าวว่าเธอได้เดินออกนอกเส้นทางในป่า และหายไป
ฝ่ายผู้เป็นพ่อรู้สึกเสียใจมาก และโทษตัวเองอยู่ตลอดว่า การที่ลูกสาวต้องหายไป เป็นเพราะเขาอนุญาตให้เธอไปตั้งแต่แรก การสูญเสียครั้งนี้ทำให้ครอบครัวโต้งตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่อื่น ทำให้มิวสูญเสียเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขาไป ในเวลาเดียวกัน
หลายปีต่อมา มิวซึ่งมีพรสวรรค์ทางด้านดนตรีก็ได้ตั้งวงกับเพื่อนเพื่อทำอัลบัม ระหว่างที่โต้งก็ยังคงอยู่กับแม่ ที่คอยเฝ้าดูแลครอบครัว เนื่องจากผู้เป็นพ่อไม่สามารถทำหน้าที่ผู้นำได้ หลังจากที่ลูกสาวหายตัวไป โต้งจึงเป็นเหมือนความหวังหนึ่งเดียวในชีวิต ที่แม่เหลืออยู่
ทั้งโต้งและมิวได้กลับมาพบกันโดยบังเอิญ หลังจากนั้นมิวก็แนะนำให้โต้งรู้จักกับพี่จูน ผู้ดูแลวง ที่มีหน้าตาเหมือนกับ พี่สาวที่หายไปของโต้ง จึงได้มีการวางแผนให้พี่จูน แสดงตัวพี่แตง เพื่อหวังว่าจะช่วยให้พ่อของโต้ง กลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม ขณะที่จูนก็รู้สึกยินดี ที่ได้สัมผัสกับความอบอุ่นของครอบครัวอีกครั้ง
รักแห่งสยาม มีการนำเสนอความรักหลากรูปแบบที่น่าสนใจ มิวคือเด็กที่สูญเสียเพื่อนสนิทไปตั้งแต่เด็ก ต่อมาไม่นานเขาก็เสียอาม่าไปอีก ทำให้เขารู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวมาตลอด เขาจึงไม่ยอมให้ใครเข้ามาใกล้ และบังคับตัวเองไม่ให้รักใคร เนื่องจากลึกลึกแล้วเขากลัวที่จะเสียใจเมื่อต้องจากกัน เขาจึงทนอยู่อย่างโดดเดี่ยว มากกว่าจะที่จะยอมเจ็บจากการจากลา
โต้งคือเด็กที่มีแม่คอยชี้นำตั้งแต่เด็ก เขาแทบจะไม่เคยต้องคิดอะไรเลย เขาเพียงแต่เดินตามทางที่แม่เขาอยากให้เดินไปเท่านั้น เมื่อถึงเวลาที่เขาต้องถามตัวเองว่าต้องการอะไร มันก็กลายเป็นความสับสน ว่าสิ่งที่เขาเลือกมันคือสิ่งที่ถูกต้องหรือเปล่า และมันจะไปทำร้ายจิตใจของใครหรือไม่
สุนีย์คือแม่ที่รักลูกมาก เนื่องจากเธอกลัวที่จะผิดพลาดเหมือนกรณีลูกสาวของเธอที่หายตัวไป เธอจึงคอยดูแลจัดการทุกอย่าง ให้ลูกเดินไปตามเส้นที่ตัวเธอ วัฒนธรรม และสังคมมนุษย์ตีกรอบกำหนดไว้ ว่าเป็นทางที่ถูกที่ควร
นักแสดงคุณภาพอย่าง เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์, สินจัย เปล่งพานิชย์, ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี และ พิมพรรณ บูรณพิมพ์ ก็แสดงได้น่าประทับใจมาก โดยเฉพาะพลอยในฉากกระชากวัยชุดนักเรียน กับฉากฟังเพลงในงานเลี้ยง โดนใจจริง
ถ้าตัดเรื่องบทที่ยังดูขลุกขลัก บางช่วง ที่เหมือนยัดเยียดบทพูดมาให้มันฟังดูซึ้งซึ้ง แต่ตูไม่ซึ้ง พอดีเป็นคนไม่ชอบการยัดเยียดสักเท่าไหร่ กับการนำเสนอองค์ประกอบภาพที่เหมือนดูละครช่องห้า ที่ส่วนประกอบฉากดูมีรายละเอียดดี แต่ไหงหลังจากผ่านรายนามนักแสดงไปแล้ว กลายเป็นมุมกล้องแบบละครโทรทัศน์ไปได้นะ การตัดต่อก็ยังไม่เนียนเท่าไหร่ แต่โดยรวมทั้งโครงเรื่องและการเล่าเรื่องก็ทำออกมาได้สวยงาม เพลงประกอบก็ลงตัวเพราะมากครับ
ป.ล. ทำไมมีคนชวนไปดูเรื่องนี้เรื่อยๆ นี่ดูไปสองรอบแล้วนะ คาดว่าอาจจะมีรอบต่อไปอีก เหนื่อยแล้วนะ
ชุดอาม่าเปรี้ยว+เดิ้น มากครับ
ทีมนักแสดงยอดเยี่ยม เอาไปเลยครับ
รักนะ…รักแห่งสยาม