Latest

PERFUME

5000 2000 PRADT
2-MINUTE READ

PERFUME

THE STORY OF A MURDERER
Tom Tykwer
(2006)

★★★★★
 

Parfum

ภาพยนตร์ที่สร้างจาก นิยายขายดีภาษาเยอรมัน ชื่อว่า Das Parfum. Die geschichte eines mörders แต่งโดย Patrick Süskind โดยใช้ชื่ออังกฤษว่า Perfume: The Story of a Murderer.

Perfume: The Story of a Murderer

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในศตวรรษที่ 18 เมื่อเด็กคนหนึ่งกำเนิดขึ้นมาในโลก แต่ไม่เป็นที่ต้องการของผู้ให้กำเนิด เขาถูกนำตัวไปที่บ้านเด็กกำพร้าตั้งแต่ยังเป็นทารก และได้ชื่อว่า ฌอง แบ๊บทิส เกรอนุย (Jean-Baptiste Grenouille) เขาเป็นคนมีพรสวรรค์ในการดมกลิ่น มีประสาทในการแยกแยะกลิ่นต่างๆเหนือมนุษย์ พอโตขึ้น เขาก็ถูกขาย ไปเป็นทาสในโรงงานฟอกหนัง เขาอดทนทำงา่นอย่างหนัก และเฝ้ารอวันที่เขาจะได้ออกไปสู่โลกภายนอก

Perfume: The Story of a Murderer

วันหนึ่งเขาได้มีโอกาสเข้าไปในเมือง ได้พบกับกลิ่นใหม่ๆมากมาย และที่นั่นเขาก็ได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่ง ผู้มีกลิ่นที่เขาหลงไหล เขาติดตามเธอไปและพลั้งมือสังหารหญิงสาวคนนั้น แต่เมื่อหญิงสาวคนนั้นเสียชีวิตลง กลิ่นที่เขาหลงไหลก็หายไปด้วย เขาจึงต้องการเรียนรู้วิธีที่จะเก็บรักษากลิ่นเอาไว้ จึงไปขอติดตามนักปรุงน้ำหอมตกอับ กุยเซบเป้ บัลดินี (Giuseppe Baldini) จากนั้นเขาก็ได้ศึกษาและพัฒนาฝีมือ เพื่อคิดค้นน้ำหอมที่เป็นสุดยอดเหนือน้ำหอมใดๆ ที่มีคนสร้างขึ้นมา เขาเชื่อว่าถ้าำเขาทำสำเร็จ เขาจะกลายเป็นบุคคลที่คนยอมรับ ว่าเป็นคนพิเศษกว่าใครๆ

Perfume: The Story of a Murderer

ชอบการเดินเรื่อง เทคนิคด้านภาพ ฉากต่างๆ รวมถึงเพลงประกอบมาก หนังสือยังไม่ได้อ่าน แต่คิดว่าหนังสือต้องสนุกกว่าหนังแน่นอน ตอนต้นเรื่องนี่สนุกจริงๆ โดยเฉพาะฉากที่ เกรอนุยผสมน้ำหอมครั้งแรก

Perfume: The Story of a Murderer

นักแสดงทุกคนก็แสดงได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ เบน วิชชอว์ (Ben Whishaw) ซึ่งรับบทเป็นเกรอนุย แสดงได้เยี่ยมมาก ทั้งสีหน้าและแววตา


THIS ARTICLE WAS FIRST PUBLISHED ON
UPDATED
2023.06.09
11 comments
  • ฉากโชว์พลังน้ำหอมตอนท้ายนี่สุดยอดมาก
    แต่ก็รู้สึกว่ามันเกินไปนิดนึง ถ้านั่งดูกับสาวนี่คง…
    ชอบเทคนิคด้านภาพครับ มีฉากที่ติดตาหลายฉากดี :D

  • แปลกประหลาดมาก!!

  • ดูแล้วชอบนะครับ รู้สึกว่าการถ่ายทอดของหนังแบบยุโรปๆมันได้ใจจริงๆเลย ชอบเหมือนคุณ rerng-rit นะครับกับฉากพลังน้ำหอม แต่ก็งงตอนจบไปนิดนึง พาแฟนไปดูแฟนก็ชอบนะครับ บอกว่าแปลกแนวกว่าหนังตลาดที่ดูกันบ่อยๆ [ismile]

  • ขอมาแจมบล็อกด้วยคนครับ เรื่องนี้ผมเขียนไว้เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว อิอิอิ

    Perfume: The Story of a Murderer หนังดีที่สุดในโปรแกรมที่เข้าในเสาร์อาทิตย์นี้ และแถมเป็นหนังที่มีฉายอย่างจำกัดไม่กี่ที่ และยังเป็นโรงแบบ Honey Moon Seat อีก นี่ถ้าผมไปดูหนังคนเดียวเหมือนทุกครั้งก็คงจะไม่ตีตั๋วเข้าไปดูเด็ดขาดเพราะเขินๆ แต่นี่มา 2 คน ค่อยกล้าหน่อย

    ที่บอกว่าเรื่องนี้เป็นหนังที่ไม่น่าพลาด ก็เพราะว่า

    1.หนังเรื่องนี้เป็นผลงานของทอม ไทค์เวอร์ ผู้กำกับชาวเยอรมันที่ผมชอบงานของเขา 2 เรื่องก่อนหน้านี้คือ Run Lora Run และ Heaven หนังของเขาจะมีสไตล์เฉพาะตัว และมีประเด็นที่น่าสนใจ ชนิดออกจากโรงแล้วมีอะไรกลับไปคิดต่อแน่นอน

    2. เรื่องนี้สร้างมานิยายระดับ Best Seller ที่เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาของนักศึกษามหาวิทยาลัยทั่วโลก ในแง่ของจิตวิทยา ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และปรัชญา ฯลฯ ผมคิดว่านักเขียนที่สามารถเอาประเด็นพวกนี้มาผสมผสานให้กลมกล่อมได้ถือว่าย่อมไม่ธรรมดา

    3.เป็นหนังฆาตกรรมที่พระเอกเป็นนักทำน้ำหอม !

    ทันทีที่ดูจบ ! เราก็อึ่งกับหลายอย่างในเรื่อง ชอบหลายตอนเลย ถ้าให้เล่าคงยาว ทิ้่งเบอร์โทรฯ ไว้นะครับจะโทรไปเมาท์ให้ฟัง 555 ถ้าให้พิมพ์คงเมื่อยมือ แต่ก็ทำให้ผมตื่นเต้นมากๆ สมกับที่นักวิจารณ์ทั่วโลกลงความเห็นว่ามันเป็นหนังที่ทรงคุณค่าน่าที่จะพูดถึง Two Thump Up สิ่งที่ผมทึ่งก็คือ หนังสามารถใช้งานด้านภาพมาต่อเติมจินตนาการเรื่องกลิ่นในเรื่องได้อย่่างดี เชื่อเถอะครับ Perfume เป็นหนังที่บอกต่อได้ชนิดที่คนที่ไปดูต้องชอบและอ้าปากค้างกับบางฉากในเรื่อง เพราะมัน Giving a Moment

    ผมติดใจการที่ Narrator ค่อยๆ นำเราเข้าสู่โลกของภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไปแต่คมคาย มีบทบางตอนที่ได้ยินแล้วชอบๆ ที่จำได้คือ

    “เขา(พระเอก)มีอุปสรรคในเรื่องภาษาที่จะอธิบายถึงความหอมของกลิ่นที่มีอยู่ในโลกนี้ ภาษามีคำอย่างจำกัดที่จะอธิบายมันได้หมด”

    “แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานดีๆ ต้องเกิดจากความเงียบสงบ”

    “ประสบการณ์ที่ทำงานอย่างหนักต่อเนื่องแต่ถ่อมตน และความอดทนจะทำให้คนเราประสบความสำเร็จ”

    “กุหลาบแดงสดๆ หนึ่งหมื่นดอกสามารถสกัดทำหัวน้ำหอมได้แค่ 1 ออนซ์”

    “เรื่องที่น่าเศร้าที่สุด ก็คือธรรมชาติของคนที่ไม่มีกลิ่นตัว ก็เหมือนกับไม่มีตัวตน ไม่มีใครจดจำได้ กลิ่นเป็นสัญชาตญาณที่มนุษย์จะจดจำซึ่งกันและกัน “
    “กลิ่นคือจิตวิญาณของสิ่งมีชีวิต”

    ฯลฯ ครับ แต่ที่เน้นๆ ผมจำได้ประมาณนี้ ผมชอบทีหนังเลืิอกจะใช้ตอนจบอย่างนั้น ไม่เล่านะอยากให้ไปดูเอง ดูไปก็คิดถึงเรื่องรูป รส กลื่น เสียง สัมผัส ที่มนุษย์เราตัดไม่ขาดสักที ย่อมที่จะมี Passion กับสิ่งเหล่านี้

  • ผมอ่าน Fiction (ยังไม่จบ) ก่อนแล้วไปดูหนังเรื่องนี้
    เพราะว่า สัปดาห์แรกที่เข้าฉายไม่มีเวลาไปดู
    แล้วก็อดทนจนวันนี้ได้ไปดูมาแล้ว ท่ามกลางการแหวกกระแส นเรศวรฟีเวอร์!

    หลังดูจบได้ความรู้สึกว่า
    – บทเขียนรัดกุม น่าติดตามดีมาก ลุ้นตลอดว่า นางเอกคนสุดท้ายจะรอดไหมหว่า (เพราะยังอ่าน Fiction ไม่จบ)
    – นางเอกคนแรก และคนสุดท้าย ตราตรึงใจยิ่งนัก
    – เกรอนุยเป็นพวกฆาตกรโรคจิตไม่กี่คนที่ผมสงสารและสมเพชในชะตากรรมของเขา และอีกนั่นแหละเกรอนุยเป็นฆาตรกรไม่กี่คนที่รอดจากการประหาร ถ้าไม่นับตาลุง Hannibal
    – ชอบงานฉาก การกำกับศิลป์เรื่องนี้หนะ
    – คุณลุงฮอฟแมนโผล่ออกมา ช่วยลดความเครียดของหนังได้ดี
    – คนเล่นบทเกรอนุย เล่นได้ใจมาก ชอบแววตามันว่างเปล่าและหม่นหมองดี

    PS. เจ้าของ Blog สนใจ Fiction เปล่า แต่ผมขออ่านจบก่อนนะ ไม่น่าเกินสิ้นเดือนนี้ (ถ้ามีเวลาอ่าน)

  • เพิ่งได้ดูวันนี้เองอ่ะ… สุดยอดดดดด แม้จะงงตอนจบก็ตามทีเถอะ แล้วก็ตอนต้น ก็ไหนมันกำลังจะ… อยู่แล้วนี่หว่า งง :?

  • the scent does not help him to love and be loved.

  • au8ust:
    ฉากเปิดเรื่องคือช่วงเวลาก่อนวันในฉากประหารในตอนท้ายครับ ในฉากต้นจะเป็นวันที่ประกาศให้ผู้คนรับรู้การตัดสินของศาล ว่า ฌอง แบ๊บทิส เกรอนุย จะถูกประหารด้วยการผูกติดกับไม้กางเขนไม้ ในอีกสองวันข้างหน้า

    ถัดจากฉากเปิดก็จะเป็นเล่าการย้อนเรื่องกลับไปในอดีต ให้เห็นประวัติของตัวเอกครับ

  • ชอบฉากเด็กทารกแรกเกิดท่ามกลางสิ่งของเน่าเหม็นมาก ให้ความรู้สึกน่าทึ่ง แปลกอย่างบอกไม่ถูก
    เป็นเรื่องที่ทิ้งปรัชญาไว้อย่างมากมาย คลาสสิคมาก

  • ชอบหนังสือเล่มนี้เป็นการส่วนตัว
    พอมาดูหนัง :) ได้อย่างใจ
    ที่เคยจินตนาการไว้เลย ชอบ!

Comments are closed.

REPORT / REQUEST
REPORT / REQUEST