フラガール
HULA GIRLS
李相日
Lee Sang-il
(2006)
เมื่อวานนี้ขณะที่เพิ่งกลับมาจาก Insight Meditation แล้วได้เปิดโทรศัพท์เพียงไม่นาน ก็มีโทรศัพท์จากพี่เล็ก Popcorn Magazine ชวนไปดูภาพยนตร์รอบพิเศษ เรื่อง Hula Girls (フラガール) โดยที่ผมไม่ได้รู้เรื่องราวอะไร เกี่ยวหนังเรื่องนี้เลย พี่เขาบอกว่าดี เราก็เชื่อตามนั้น มีบัตรให้มาหลายใบ ต้องโทรไปตามเพื่อนมาดูกัน แต่ละคนก็ดูเหมือนจะไม่ว่าง ในที่สุดก็ตามซันนี่มาได้อีกหนึ่งคน
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริง ของ 常磐ハワイアンセンター (จูบัง ฮาวายเอี้ยน เซ็นเตอร์) (ปัจจุบันใช้ชื่อว่า スパリゾートハワイアンズ ~สปา รีสอร์ท ฮาวายเอี้ยน) ในเมืองอิวากิ ที่ฟุคุชิม่า ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงยุค 60 เมื่อยุคสมัยเริ่มเปลี่ยนและถ่านหินไม่เป็นที่นิยมอีกต่อไป บริษัทก็ต้องจำใจปิดเหมืองถ่านหินลง และเปลี่ยนแผนไปทำธุรกิจอย่างอื่น
แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่ประชากรทำเหมืองถ่านหินมานาน เรียกได้ว่าคนขุดถ่านหินก็เป็นชาวบ้านในนี้ทั้งนั้น เมื่อเหมืองต้องปิดตัวลงก็หมายถึงการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมหาศาล แน่นอนว่ามีผู้ไม่เห็นด้วย เพราะนั่นหมายหมายถึงว่าพวกเขาต้องตกงานและพวกเขาก็ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงด้วย
แต่การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคสมัยใหม่ ก็ค่อยๆดำเนินไปอย่างช้าๆ ผ่านกลุ่มสาวๆ ที่เข้าใจว่าพวกเธอต้องฝึกเป็นนักเต้นอาชีพเพื่อช่วยหารายได้ให้กับครอบครัวและเมืองของพวกเขา ตามแผนการ ฮาวายเอี้ยน เซ็นเตอร์ ที่เกิดขึ้นโดยใช้ประโยชน์จากน้ำพุร้อนใต้ดิน มาสร้างเป็นบรรยากาศแบบฮาวาย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว อันจะนำมาซึ่งเศรษฐกิจของเมือง แทนเหมืองถ่านหินที่ปิดตัวลง (ฮาวายเป็นสถานที่หนึ่งที่ประชากรชาวญี่ปุ่นนิยมไปท่องเที่ยวกันมากที่สุด)
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีส่วนคล้าย スウィングガールズ (Swing Girls) แต่อารมณ์มันอิ่มกว่า ไม่เน้นตลกมาก เน้นอารมณ์แบบดรามา ซึ้ง เศร้า ดีใจ เสียใจ ครบครัน แม้ว่าบางช่วงจะดูขัดกันไปนิด แต่ผมชอบเรื่องนี้มากกว่า Swing Girls นะ ที่สำคัญคือเพลงประกอบเพราะมาก โดยฝึมือคุณ Jake Shimabukuro ส่วนผู้กำกับเรื่องนี้คือ 이상일 (อี ซัง-อีล) ชาวเกาหลีที่เกิดในญี่ปุ่น โดยผลงานก่อนหน้านี้ที่ผมเคยดูคือเรื่อง 69 sixty nine
การแสดงของนักแสดงก็ทำได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะตัวครูฝึกสอนเต้น รับบทโดย 松雪泰子 (Yasuko Matsuyuki) และ 蒼井優 (Aoi Yuu) ในบทเด็กสาวผู้มีความฝันอยากเป็นนักเต้นอาชีพ และต้องขอชมผู้ออกแบบท่าเต้นทั้งหลายด้วย ทำออกมาได้งามมาก
เรื่องนี้ทำใ้ห้ผมรู้ว่า ระบำฮาวาย ไม่ได้มีแต่จังหวะ ตึงๆ เต้นเอื่อยๆ ย้ายไปซ้ายขวา แต่มีหลายจังหวะ และท่าทางของการเต้นรำ ก็เป็นภาษาที่สื่อข้อความได้ด้วย ไม่ใช่แค่ทำให้ดูสวยงามอย่างเดียว
สุดท้ายก็ขอฝากเพลง Wish On My Star ผลงานของคุณ Jake Shimabukuro ที่ได้เสียงร้องของคุณ Jennifer Perri มาร่วมขับขานด้วย ซึ่งเป็นเพลงประกอบในภาพยนตร์เรื่องนี้ และเป็นเพลงที่ไพเราะมีความหมายดีมาก
I wouldn’t change a thing about you
I wouldn’t ask the green to be blue
I wouldn’t ask the birds not to fly
Or change a thing in the sky
Or turn hello to goodbye
I wouldn’t ask the birds not to sing
I wouldn’t ask the phone not to ring
I just couldn’t ask the wind not to blow
Or a boat not to row
Or a trio to go solo
You are amazing just as you are
You’re a flower in the spring
You’re the light each morning brings
And I adore you just where you are
You’re not the star that i wish on
You’re the wish on my star
มีแผ่นหนังแต่ยังไม่ได้ดูเลย
แวะมาลองฟังเพลงก่อนนะ
ไว้ดูแล้วจะมาอ่านเกี่ยวกับหนัง
เพลงเพราะมากๆ
เสียงร้องขึ้นมา อูยยยเลย
เสียงกีต้าร์ก็โดนๆ