Sophia Howard (Catherine Walker) เช่าบ้านหลังหนึ่งในชนบทของเวลส์เป็นเวลา 1 ปี เพื่อเตรียมการทำพิธีกรรม ซึ่งเธอได้ติดต่อ Joseph Solomon (Steve Oram) ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์มืดให้มาเป็นผู้แนะนำวิธีการ

เมื่อ Joseph ถามถึงจุดประสงค์ที่เธอต้องการใช้พิธีกรรมของ Abramelin เพื่อเรียกเทวดาผู้พิทักษ์มาขอพร เธอตอบว่าเธอต้องการทำให้คนๆ หนึ่งกลับมารักเธออีกครั้ง คำตอบของเธอกลับทำให้ Joseph ไม่พอใจอย่างมาก และปฏิเสธที่จะช่วยเหลือเธอ เขาคิดว่าใช้พิธีกรรมที่ต้องทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อแลกเปลี่ยนกับความรักเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่า เปรียบเสมือนการเรียกศิลปินวาดภาพระดับโลกมาแต่งหน้าขนมเค้ก

จนนาทีสุดท้ายก่อนที่ Joseph จะขึ้นรถไฟกลับ Sophia ถึงยอมเปิดเผยความจริงว่าเธอต้องการที่จะติดต่อกับลูกชายอายุ 7 ขวบของเธอที่เสียชีวิตไปแล้ว ทำให้ Joseph เปลี่ยนใจกลับมาช่วยเธอ โดยเขาย้ำกับเธอว่า การที่พิธีกรรมจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น มันขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ที่แท้จริงของเธอ

Joseph อธิบายหนึ่งในกฏที่สำคัญที่สุดของพิธีกรรมนี้คือ เมื่อเริ่มต้นขึ้นแล้วพวกเขาจะไม่สามารถก้าวเท้าออกจากอาณาเขตของวงเวทมนตร์ที่ล้อมบ้านนี้ไว้ จนกว่าที่พิธีกรรมจะเสร็จสมบูรณ์ เป็นพิธีกรรมที่ต้องใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน ซึ่ง Sophia ก็ยอมตกลงทำตามเงื่อนไข

Sophia ต้องอดทนปฏิบัติตามขั้นตอนที่ Joseph สั่ง ซึ่งหลายขั้นตอนทำให้เธอต้องพบกับความเจ็บปวดทรมาน แต่เธอปฏิเสธที่จะทำพิธีให้อภัย โดยยืนกรานว่านี่เป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถทำได้ Joseph จึงบังคับให้เธอดื่มเลือดของเขาแทน เธอยอมดื่มเลือดมากกว่าจะยอมทำพิธีให้อภัย

เธอเริ่มได้ยินเสียงบางอย่าง และได้เห็นสิ่งผิดปกติ แต่เธอก็ยังไม่แน่ใจว่ามันคือสัญญาณที่บอกเธอว่าเธอกำลังใกล้ความสำเร็จ หรือมันเป็นสิ่งที่เธอจินตนาการไปเอง หลังจากที่เวลาผ่านไปหลายเดือน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ถึงจุดระเบิด เมื่อเธอคิดว่าพิธีกรรมใช้เวลามากเกินไปและไม่ได้ผลอะไรที่ชัดเจน ส่วน Joseph ก็เกรี้ยวโกรธเพราะเขาคิดว่าเธอปกปิดความจริงบางอย่างไว้ จุดประสงค์ที่ไม่บริสุทธิ์ทำให้พิธีกรรมไม่สมบูรณ์

สถานการณ์พลิกผัน เมื่อ Sophia ยอมเปิดเผยว่าการแก้แค้นคนที่ฆ่าลูกชายคือจุดประสงค์ที่แท้จริงของเเธอ แต่เธอกลัวว่าถ้า Joseph รู้ความจริงเรื่องนี้ เขาจะไม่ยอมช่วยเหลือเธอ เนื่องจากคนที่ฆ่าลูกชายของเธอก็เป็นพวกที่คลั่งศาสตร์มืดเหมือนกับเขา ส่วน Joseph กลับโกรธและตกใจยิ่งกว่า เพราะเขารู้ดีถึงผลลัพธ์ที่เลวร้ายของการประกอบพิธีกรรมอันเกิดจากจุดประสงค์ที่ไม่บริสุทธิ์

ผลงานกำกับภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกของ Liam Gavin ผู้กำกับชาวไอริช ที่เขาเป็นคนเขียนบทเองด้วย A DARK SONG เป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่เล่าเรื่องจากมุมมองที่ต่างจากภาพยนตร์แนวเดียวกันเรื่องอื่น มันมีความเป็น suspense thriller มากกว่าความเป็น horror ที่เรามักจะเห็นกันบ่อยๆ โดยที่เรื่องนี้เน้นไปที่พิธีกรรมที่ตัวเอกจะต้องผ่าน เพื่อที่จะบรรลุจุดประสงค์ของเธอ

ชอบบรรยากาศที่ผู้กำกับเพิ่มความอึดอัดขึ้นไปทีละนิดแบบไม่ปล่อยให้ผู้ชมได้พัก โดยที่ไม่มีการใช้ฉาก jump scare หรือผีตุ้งแช่ออกมาเลย เขาใช้แค่ฉากที่ดูเหมือนจะธรรมดา เช่น ฉากประตูเปิดเอง ฉากเสื้อคลุมบนเก้าอี้ ฉากที่ได้ยินแค่เสียง แต่สร้างบรรยากาศสยองด้วยเสียงและเพลงประกอบฝีมือ Ray Harman นักประพันธ์ชาวไอริช ที่ใส่เข้ามาอย่างได้จังหวะทุกครั้ง

ความความอดทนและความมุ่งมั่นในการประกอบพิธีกรรม ที่ต้องทำซ้ำไปซ้ำมา โดยที่ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะประสบความสำเร็จ Steve Oram ในบท Joseph Solomon ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์มืดที่มีอารมณ์ฉุนเฉียว คาดเดาอะไรไม่ได้ว่าเขาจะลงมือทำอะไรต่อไป ทำให้ผู้ชมสงสัยว่าเขาสามารถอัญเชิญเทวดาผู้พิทักษ์ได้จริงอย่างที่เขาอ้าง หรือเขาเป็นแค่หมอผีตัวปลอมที่ต้องการแค่หลอกเอาเงินคนที่มาหลงเชื่อ ส่วน Catherine Walker ในบท Sophia Howard หญิงสาวที่ยอมสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะได้ยินเสียงลูกชายอีกครั้ง แต่ทุกครั้งที่เธอบอกว่าเธอพูดความจริงทั้งหมดแล้ว ก็ยังทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่าเธอยังปกปิดอะไรบางอย่างเอาไว้ นักแสดงนำทั้งสองคนเล่นได้ดีมาก เมื่อทั้งสองคนที่มีบุคลิกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเดียวกันเป็นเวลาหลายเดือน ก็ยิ่งช่วยเสริมความระทึกขึ้นไปอีก จนถึงจุดที่ผู้ชมเริ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นเป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจริงหรือเปล่า

พิธีกรรมของ Abramelin ที่มีการอ้างถึงในเรื่องก็เป็นพิธีกรรมที่มีอยู่จริง (แต่ในภาพยนตร์ไม่ได้ใช้รูปแบบพิธีกรรมตามต้นฉบับ) ในหนังสือชื่อ The Book of the Sacred Magic of Abramelin the Mage ซึ่งเขียนขึ้นโดย Abraham (ที่เชื่อว่ามีชีวิตอยู่ในช่วงปี 1362 – 1458) ชาวยิวที่เดินทางจากเยอรมนีไปอียิปต์ และได้พบกับ Abramelin ผู้ใช้เวทมนตร์ (mage) ที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายใกล้แม่น้ำไนล์ ซึ่งได้มอบต้นฉบับบันทึก Divine Science และ True Magic ให้กับ Abraham นำไปลอกเก็บไว้อีกฉบับ

Samuel Liddell MacGregor Mathers ผู้ศึกษาศาสตร์มืดหนึ่งในผู้ก่อตั้งสมาคมลับ Hermetic Order of the Golden Dawn ได้แปลหนังสือเล่มนี้เป็นภาษาอังกฤษในศตวรรษที่ 19 ทำให้ศาสตร์ของ Abramelin กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง

พิธีกรรมของ Abramelin จะใช้ตารางอักษรเวทมนตร์ (magic word squares) ซึ่งคล้ายคลึงกับตารางเวทย์แบบเก่าที่จะใช้ทั้งตัวอักษรและตัวเลข แต่เวอร์ชันของ Abramelin จะใช้แค่ตัวอักษรเท่านั้น ช่องสี่เหลี่ยมจะต้องมีคำหรือชื่อที่เกี่ยวข้องกับจุดประสงค์ของเวทมนตร์ที่จะใช้ โดยพิธีกรรมที่ใช้เรียกเทวดาผู้พิทักษ์ (guardian angel) เป็นพิธีกรรมที่ยากมาก ต้องมีการภาวนาก่อนพระอาทิตยขึ้นและตอนพระอาทิตย์ตก มีข้อห้ามและข้อจำกัดที่ผู้ประกอบพิธีต้องรักษาอย่างเคร่งครัด และต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน ถึงจะมีโอกาสประสบความสำเร็จ ว่ากันว่าผู้ที่ทำสำเร็จจะได้พบกับเทวดาผู้พิทักษ์และได้รู้ความลับของเวทมนตร์วิเศษ

A DARK SONG ฉายรอบปฐมทัศน์ที่งาน Galway Film Fleadh ในประเทศไอร์แลนด์ วันที่ 8 กรกฎาคม 2016 และได้เปิดฉายจริงในโรงภาพยนตร์วันที่ 7 เมษายน 2017 พร้อมกับสหราชอาณาจักร บริษัท IFC Midnight ได้ลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา เปิดฉายวันที่ 28 เมษายน 2017 พร้อมกับปล่อยให้ซื้อ/เช่าบนดิจิทัลแพลตฟอร์มในวันเดียวกัน