황해

หยันเปียน (延边/옌볜/Yanbian) คือเขตปกครองตนเองในมณฑลจี๋หลินประเทศจีน เขตนี้เป็นจุดเชื่อมต่อของสามประเทศ ตอนเหนือติดเฮย์หลงเจียง ตะวันตกติดไป๋ซานและจี๋หลิน ทางใต้ติดฮัมกย็องเหนือ ของเกาหลีเหนือ ทิศตะวันออกติดปรีมอร์สกีของรัสเซีย หยันเปียนถูกกำหนดให้เป็นเขตปกครองตนเองระดับจังหวัดชนชาติเกาหลี เนื่องจากมีชาวเกาหลีอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก พวกเขาถูกเรียกว่า Joseonjok (조선족) ลูกหลานที่สืบเชื้อสายมาจากชาวเกาหลีที่อพยพมาพื้นที่แห่งนี้และได้สัญชาติจีน การสำรวจประชากรในช่วงปี 2000 พบว่ามี Joseonjok มากกว่า 800,000 คนอาศัยอยู่ในเขตนี้ กว่า 50% หาเลี้ยงชีพด้วยการทำงานผิดกฏหมาย หรือเดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้

구남/Gu-Nam (하정우/Ha Jung-Woo) เป็นหนึ่งในชาว Joseonjok ที่อาศัยอยู่ในเขตหยันเปียน ทำงานเป็นคนขับแท็กซี่เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ ที่ภรรยาของเขากู้ไปทำวีซ่าใช้เดินทางไปทำงานเกาหลีใต้และจะส่งเงินกลับมา แต่ภรรยาของเขาก็หายตัวไป อีกทั้งยังไม่เคยส่งเงินกลับมา ชาวบ้านรวมถึงตัวเขาจึงเชื่อว่าเธอหลอกใช้เขาเพื่อหนีไปจากที่นี่ ปล่อยให้เขาต้องมาชดใช้หนี้ก้อนโตที่ไม่มีทางหามาคืนได้ เพราะ Gu-Nam เป็นคนติดการพนันที่เขาคิดว่าเป็นทางลัด แต่กลับเสียเงินที่หามาได้ไปหมด เจ้าหนี้ก็มาตามทวงทุกวัน

หลังจากที่ Gu-Nam ไปก่อเรื่องทะเลาะวิวาทในบ่อน 면정학/Myun Jung-Hak (김윤석/Kim Yun-Seok) เจ้าพ่อขาใหญ่แห่งหยันเปียนก็เรียกตัวเขาไปพบ และเสนองานให้เขาไปฆ่าผู้ชายชื่อ 김승현 (Kim Seung-Hyun) ในเกาหลีใต้เพื่อแลกกับเงินค่าจ้าง 57,000 หยวน (ประมาณ 300,000 บาท) ซึ่งมากพอที่จะชดใช้หนี้ของเขาทั้งหมด

Gu-Nam ไม่มีทางเลือกอื่น นี่เป็นวิธีเดียวที่จะสามารถปลดหนี้และยังเป็นโอกาสที่เขาจะได้ไปตามหาภรรยาของเขาที่หนีไปอีกด้วย Gu-Nam จึงตัดสินใจรับงานและเดินทางไปเกาหลีใต้การหลบซ่อนตัวในเรือหาปลาพร้อมกับ Joseonjok อีกจำนวนหนึ่งที่ลอบเดินทางเข้าเกาหลีใต้อย่างผิดกฏหมาย

งานของ Gu-Nam ไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคาดไว้ เมื่อเขาพบว่าเป้าหมายอาศัยอยู่ที่ชั้นบนสุดของอาคารที่ไม่มีลิฟท์ขึ้นไปถึง และยังมีรั้วกั้นทั้งชั้นไว้อีกด้วย เขาต้องใช้เวลาหลายวันในการสำรวจพื้นที่ กำหนดการที่เป้าหมายจะเดินทางมาถึงอาคารพร้อมคนขับรถ ประตูทางเข้าออกที่จะถูกล็อกทันทีหลังจากที่เป้าหมายเข้าไปในอาคาร

ระหว่างนั้นเขาก็สืบหาภรรยาเขาไปด้วย จนได้พบกับที่อยู่ของเธอในที่สุด แต่เมื่อเขาไปถึงก็พบว่าเธอได้หายตัวไปแล้ว เหลือเพียงห้องว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยข้าวของกระจัดกระจายไปทั่ว

Gu-Nam ตั้งใจจะจัดการเป้าหมายของเขาในคืนนั้น แต่เมื่อเขาเดินทางไปถึงอาคารเพื่อเข้าไปซ่อนตัวดักรอเป้าหมายตามที่เขาวางแผนไว้ กลับพบชายแปลกหน้า 2 คนตัดหน้าแอบเข้าในอาคารก่อน ทำให้เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าไปดักหน้าเป้าหมาย หลังจากนั้นเขาก็รู้ว่าชายสองนั้นก็เป็นคนที่ถูกจ้างมาให้ฆ่าเป้าหมายเดียวกับเขา

เป้าหมายของ Gu-Nam ไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นถึงอดีตนักยูโดเหรียญเงินเอเชียนเกมส์ เขาต่อสู้กับคนร้ายทั้งสองคนจนสามารถฆ่าคนร้ายที่มีอาวุธทั้งสองคนได้สำเร็จ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน Gu-Nam แอบตามคนขับรถที่เปิดประตูเข้าไปในอาคาร จนค้นพบความจริงว่าคนขับรถเป็นคนวางแผนทุกอย่าง รวมถึงเป็นคนลงมือสังหารเป้าหมายได้ในที่สุด Gu-Nam กลายเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ คนขับรถจึงพยายามจะฆ่า Gu-Nam เพื่อปิดปาก ระหว่างการต่อสู้คนขับรถก็พลัดตกบันได เมื่อตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ Gu-Nam ก็กลายเป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมที่ต้องหลบหนีตำรวจอย่างหัวซุกหัวซุน

황해 เขียนบทและดำเนินเรื่องได้ดีมาก แม้ว่าช่วงแรกจะใช้เวลาเกริ่มนานไปหน่อยเกือบ 50 นาที ความสนุกทะลุขีดเริ่มตั้งแต่ตัวเอกพยายามหลบหนีตำรวจ นับเป็นหนึ่งในฉากไล่ล่าระหว่างคนร้ายและตำรวจที่ระทึกที่สุดที่เตยดูมา สมจริงจนอยากรู้ว่าตัวเอกต้องวิ่งนานแค่ไหนถึงจะได้ภาพแบบนั้นออกมา 하정우 (Ha Jung-Woo) เล่นบท 구남/Gu-Nam ได้ยอดเยี่ยม สมแล้วที่เป็นหนึ่งในนักแสดงที่ทำรายได้สูงสุดในเกาหลีใต้ ภาพยนตร์ที่เขาแสดงทั้งหมดมียอดขายตั๋วรวมมากกว่า 100 ล้านใบ

งานของ 나홍진 (Na Hong-Jin) ยังคงเต็มไปด้วยความพลิกผัน มีจุดหักมุมที่เหนือการคาดเดาอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้กำกับ และยังมีฉากไล่ล่าที่ระทึกขวัญและฉากต่อสู้ที่เหี้ยมโหดเลือดสาดซ่านกระเซ็น

황해 หรือ THE YELLOW SEA ฉายครั้งแรกในประเทศเกาหลีใต้วันที่ 22 ธันวาคม 2010 ภาพยนตร์ทริลเลอร์อาชญากรรมเรื่องนี้เป็นผลงานลำดับที่สองของ 나홍진 (Na Hong-Jin) ผู้กำกับ 추격자 (THE CHASER) และ 곡성 (THE WAILING) ที่เขาเป็นคนเขียนบทเองเช่นเคย

THE YELLOW SEA เปิดตัวด้วยรายได้อันดับหนึ่งในสัปดาห์แรกที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ด้วยยอดขายตั๋วมากกว่า 1 ล้านใบ และทำยอดขายตั๋วรวมทั่วประเทศเกาหลีใต้ตลอดระยะเวลาการฉายมากกว่า 2 ล้านใบ นอกจากนี้ยังได้รับเลือกให้ไปฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์ Cannes Film Festival ปี 2011 ในสาขา Un Certain Regard