ปี 2092 ทะเลทรายแผ่ขยายพื้นที่ไปทั่วโลก หลังจากที่ผืนป่าหายไป พร้อมกับกับแสงอาทิตย์ และพื้นดินที่ไม่สามารถปลูกพืชได้ ประชาชนที่มีเงินและโอกาสต่างพากันย้ายออกไปตั้งถิ่นฐานนอกโลกบนฐานที่ลอยอยู่ในอวกาศ ซึ่งสร้างโดยบริษัท UTS แต่ก็ยังมีประชาชนยากจนอีกจำนวนมากที่ยังคงต้องทนอาศัยอยู่บนโลก

James Sullivan (Richard Armitage) ผู้ก่อตั้งบริษัท UTS จนเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุด และยังเป็นคนที่อายุยืนที่สุดถึง 152 ปี เขามุ่งมั่นที่จะสร้าง Super Plant พืชที่ทนต่อสภาวะอากาศซึ่งสามารถปลูกที่ไหนก็ได้ จุดหมายที่ยิ่งใหญ่ของเขาคือการสร้างถิ่นฐานของมนุษย์บนดาวอังคารด้วย Terraforming โดยใช้พืชและเทตโนโลยีที่พัฒนาโดยบริษัท UTS

แต่การสร้างฐานอวกาศของบริษัท UTS ก่อให้เกิดขยะอวกาศมากมาย ทั้งโครงสร้างที่ถูกทิ้ง ดาวเทียมที่เลิกใช้งาน ลอยละล่องอยู่ในวงโคจรของโลก จนเกิดธุรกิจที่เรียกว่า Space Sweepers หรือคนเก็บขยะอวกาศ ที่ต่างแย่งชิงเศษซากขยะเพื่อนำไปขายแลกเป็นเงินมาใช้ดำรงชีวิต

ยาน 승리 (Victory) สัญชาติเกาหลีดูเหมือนจะเป็นยานเก็บขยะที่เก่งที่สุด มีสมาชิกทั้งหมด 4 คนคือ นักบิน Tae-Ho (Song Joong-Ki / 송중기) อดีตนายทหารชั้นสูง เขากำลังตามหาตัวเด็กผู้หญิงที่หายตัวไป, กัปตัน Jang (Kim Tae-Ri / 김태리) อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษ แต่ละทิ้งหน้าที่เพื่อมาตั้งกลุ่มโจรสลัด, วิศวกร Tiger Park (Jin Seon-Kyu / 진선규) อดีตพ่อค้ายาที่หลบหนีมาจากโลก, และ Bubs (Yoo Hae-Jin / 유해진) อดีตหุ่นยนต์ทหารที่ปากจัดและมีความสามารถในการต่อสู้ พวกเขามักจะแย่งชิงขยะอวกาศจากยานลำอื่นจนเป็นที่รังเกียจของผู้ร่วมอาชีพ แต่อย่างไรก็ตามพวกเขากลับมีหนี้สินมากมายจากการที่ยานของพวกเขาสร้างความเสียหายระหว่างการเก็บขยะ

พวกเขาพบกับเด็กผู้หญิงซ่อนตัวอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ในซากยานอวกาศ ที่พวกเขาเชื่อว่าเธอคือ Dorothy (Park Ye-Rin / 박예린) หุ่นแอนดรอยด์รูปร่างเหมือนมนุษย์ที่กำลังเป็นข่าวว่าเป็นหุ่นที่มีระเบิดฝังอยู่ในร่าง พวกเขาจึงตัดสินใจติดต่อ Hyeonu Kang หลังจากที่พบชื่อของเขาจากข้าวของที่อยู่ในกระเป๋า และตกลงที่จะส่งตัว Dorothy คืนเพื่อแลกกับเงิน 2 ล้าน

การแลกเปลี่ยนล้มเหลวเนื่องจาก James Sullivan ส่งทีมมาจัดการโดยหวังที่จะกำจดทุกคนที่เกี่ยวข้องกับ Dorothy แต่โชคยังดีที่ทีมของ Tae-Ho พา Dorothy หนีออกไปได้ ความจริงของตัวตนที่แท้จริงของ Dorothy และความสามารถพิเศษของเธอที่จะสามารถช่วยเหลือมนุษยชาติได้จึงคลี่คลายออกมา

เป็นภาพยนตร์ที่มีพล็อตเรื่องน่าสนใจ ตัวละครหลักแต่ละคนมีจุดหมายที่ชัดเจน แต่การเล่าเรื่องยังด้อยและไม่ช่วยเสริมการสร้างตัวละครให้ดึงดูดอย่างที่ควรจะเป็น กว่าที่ตัวบทจะเปิดเผยเบื้องหลังความเป็นมาของทุกคนก็ต้องอดทนนั่งดูไปเกินครึ่งเรื่อง จึงแทบจะไม่มีผลทางอารมณ์กับผู้ชมแล้ว โดยเฉพาะความหลังของ Tae-Ho ที่ยาวกว่าคนอื่นหลายเท่า! อีกทั้งการตัดต่อที่พยายามเล่าเรื่องซึ่งดูเหมือนจะมีรายละเอียด มากเกินกว่าที่จะยัดลงในภาพยนตร์ความยาวสองชั่วโมงได้ กลายเป็นการสร้างความสะดุดจากความไม่ต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคำถามที่ถูกทิ้งไว้โดยไม่มีคำตอบเนื่องจากเวลาที่จำกัด ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่ามันอาจจะดีกว่าถ้าเรื่องนี้ถูกสร้างเป็นมินิซีรีย์

การออกแบบตัวละครหุ่น Bubs ยังทำให้นึกถึง K-2SO จากภาพยนตร์เรื่อง Rogue One แต่ความประชดประชันยังห่างชั้น และแม้ว่าจะใส่ฉากการต่อสู้ในอวกาศที่ดูยิ่งใหญ่ แต่ก็อดเปรียบเทียบไม่ได้ Space Sweepers ยังไม่สามารถสร้างความประทับใจกับบทสรุปตอนจบที่มีการหักมุม แต่กลับสร้างความฉงนงงงวยกับการเขียนบทแบบนี้ มากกว่าที่จะสร้างความตื่นเต้นระทึกที่น่าจดจำ

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดฉายช่วงปลายเดือนกันยายน 2020 แต่เนื่องจากสถานการ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้การฉายในโรงภาพยนตร์ถูกเลื่อนออกอย่างไม่มีกำหนด และในเดือนพฤศจิกายน Netflix ได้เข้าซื้อลิขสิทธิ์เพื่อฉายบนแพลตฟอร์มของตัวเองในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2021